เที่ยว ชิม ชม 4 เมนู Soft Power ของดี 4 อุทยานแห่งชาติ
ประเทศไทยมีอาหารอร่อย ๆ ซ่อนอยู่ทั่วทุกภูมิภาค มีความแตกต่าง ทั้งรสชาติ หน้าตา ส่วนผสม และวัฒนธรรมประเพณี ความเชื่อ ทั้งหมดถูกรังสรรค์ออกมาเป็นอาหารเมนูยอดนิยม และต้นตำรับ แบบหาที่ไหนไม่ได้แล้วในโลก ซึ่งหาการเหล่านี้รอคอยผู้เดินทางมาเยือนลองไปชิมสักครั้งในชีวิต
ที่ผ่านมาไปสะดุดกับเรื่องราวหนึ่งที่น่าสนใจของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) หยิบเอาเมนูอาหารขึ้นชื่อว่าเป็น “เมนูเด็ดอุทยานแห่งชาติ” ซึ่งนับเป็นหนึ่งช่องทางของการส่งเสริมซอฟต์ พาวเวอร์ (Soft Power) หรือวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มแก่การท่องเที่ยว โดยเฉพาะเรื่องอาหาร ที่เป็นปัจจุยสำคัญของการใช้ชีวิต ละสามารถนำมากระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวได้
สำหรับเมนูเด็ดอุทยานแห่งชาติ ซึ่งอุทยานแห่งชาติและวนอุทยานทั่วประเทศต่างก็มีวิธีการและวัตถุดิบเฉพาะถิ่นที่สามารถนำมาสร้างรายการอาหารขึ้นชื่อเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ เพื่อเป็นการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาชิมและสัมผัสรสชาติอาหารที่แตกต่างไปจากเดิมรวมทั้งสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวแปลกใหม่ให้กับตัวเอง เบื้องต้นคัดเลือกมา 4 เมนูเด็ด เราไปดูกันว่า ทั้ง 4 เมนู และ 4 อุทยานแห่งชาติ คือที่ไหน มีอะไรน่ากิน น่าเที่ยวบ้าง
“แกงเผ็ดอะโวคาโด” อุทยานฯ ออบขาน
เริ่มต้นกันที่แรก พาขึ้นไปเมืองเหนือ ที่อุทยานแห่งชาติออบขาน จ.เชียงใหม่ พื้นที่กว้างใหญ่ 484 ตารางกิโลเมตร หรือ 302,500 ไร่ครอบคลุมอำเภอสะเมิง อำเภอหางดง อำเภอแม่วาง และอำเภอสันป่าตอง เป็นแหล่งที่พบเอื้องมณีไตรรงค์แห่งเดียวในประเทศไทย โดยเอื้องชนิดนี้จะบานในช่วงเดือนมกราคม ของทุกปี พื้นที่ส่วนใหญ่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินปูนและหินอัคนี ประกอบด้วยป่าประเภทต่าง ๆ ได้แก่ ดิบเขา สนเขา ดิบแล้ง เบญจพรรณ และเต็งรัง ทั้งยังเป็นต้นกำเนิดน้ำแม่วาง น้ำแม่วิน และน้ำแม่ขานด้วยเช่นกัน
ไฮไลท์แห่งอุทยานฯ – ออบขาน มีลักษณะเป็นช่องหน้าผาชัน แต่มีขนาดเล็กกว่าและสูงประมาณ 30 เมตร ซึ่งมีแม่น้ำแม่ขานไหลผ่านกลาง อีกทั้งยังมีลักษณะเว้าแหว่งเป็นรูปทรงต่าง ๆ ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำ และ ห้วยหญ้าไซ มีระดับน้ำค่อนข้างตื้นเหมาะสำหรับลงเล่นน้ำ นอกจากนี้ ริมฝั่งยังมีหญ้าไซขึ้นปกคลุมเขียวขจี และออกดอกสวยงาม และถัดจากห้วยหญ้าไซไปเพียง 500 เมตร มีผาเตี้ย ๆ เรียกว่า ผาตูบ มีลักษณะเป็นชะง่อนหินใหญ่ที่ถูกสายน้ำกัดเซาะจนมีรูปร่างแปลกตา ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 1 กิโลเมตร
สถานที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น ห้วยโป่งที่อยู่ห่างจากที่ทำการไปประมาณ 2 กิโลเมตร ที่นี่สามารถลงเล่นน้ำได้ ผาลาย น้ำตกขุนป๋วย น้ำตกแม่เตียน ถ้ำดอยโตน น้ำพุร้อนแม่โต๋ น้ำตกมรกต น้ำตกแม่มูด น้ำตกขุนวิน น้ำตกแม่วาง และถ้ำตั๊กแตน รวมถึงเส้นทางศึกษาธรรมชาติสำหรับผู้สนใจอีกด้วย
สำหรับ เมนูแรกจากอุทยานฯ ออบขาน จ.เชียงใหม่ ได้แก่ “แกงเผ็ดอะโวคาโด” ซึ่งอะโวคาโดเป็นพืชที่ชุมชนรอบพื้นที่ปลูกกันมาก เนื้อสัมผัสนุ่มหนืดกับรสชาติเฉพาะตัวของอะโวคาโด ทำให้แกงเผ็ดไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ หรือเนื้อ มีความเข้มข้นและนุ่มลิ้นขึ้น กลิ่นหอมอ่อนๆ ของโหระพาและใบมะกรูด คงเอกลักษณ์ความเป็นอาหารไทย จะทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือขนมจีนก็อร่อยไม่แพ้กัน
“สเต็กเนื้อสันใน ซอสพริกไทยอ่อน” อุทยานฯ เจ็ดสาวน้อย
สถานที่ต่อมาก็ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน นั่นคือ อุทยานแห่งชาติ เจ็ดสาวน้อย จ.สระบุรี โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นภูเขาสลับซับซ้อนสลับกับพื้นที่ราบ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางอยู่ที่ 180-402 เมตร บริเวณเชิงเขาด้านทิศตะวันออกและทิศเหนือติดคลองมวกเหล็กซึ่งมีน้ำไหลผ่านตลอดปี ตอนกลางของพื้นที่มี ห้วยแล้ง ลำห้วยเล็ก ๆ จะมีน้ำไหลผ่านเฉพาะช่วงฤดูฝนเท่านั้น สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าปลูก เนื่องจากพื้นที่แต่เดิมถูกบุกรุกทำลาย ภายหลังจึงได้รับการปลูกป่าฟื้นฟู
จุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมก็คือ “น้ำตกเจ็ดสาวน้อย” เป็นน้ำตกชั้นเตี้ย ๆ จำนวน 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสูง 2-5 เมตร สายน้ำไหลลดหลั่นเป็นธารน้ำตกกว้างคล้ายแก่งขนาดใหญ่ มีอ่างน้ำตื้น ๆ หลายแห่งที่ลงเล่นน้ำได้ น้ำตกชั้นที่สวยงามที่สุดคือ ชั้นที่ 4 และจะสวยมาก ๆ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนเมษายน เพราะน้ำใสสะอาด ไม่ไหลเชี่ยว จึงลงเล่นได้อย่างปลอดภัย น้ำตกเจ็ดสาวน้อย มีต้นกำเนิดมาจาก ลำห้วยมวกเหล็ก ซึ่งเป็นลำห้วยที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี สายน้ำของลำห้วยมวกเหล็กที่ไหลผ่านในพื้นที่มีระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมี น้ำตกซับเหว และถ้ำดาวเขาแก้ว ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานฯ ให้ได้แวะเที่ยวกันอีก
สำหรับเมนูที่สองจากอุทยานฯ เจ็ดสาวน้อย จ.สระบุรี ได้แก่ “สเต็กเนื้อสันใน ซอสพริกไทยอ่อน” เป็นเนื้อสันในวัวที่ได้จากชุมชนใน อ.มวกเหล็ก นำมาหมักกับเครื่องเทศทำให้เกิดความนุ่มไม่แพ้เนื้อวัวนำเข้าจากออสเตรเลีย เคล้าซอสพริกไทอ่อนที่มีส่วนผสมของนมวัวเพื่อให้ความหอมมันแทนการใช้วิปปิ้งครีม
“แกงส้มปูทะเลหน่อไม้ดอง” อุทยานฯ หมู่เกาะอ่างทอง
ลงใต้ไปกันที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งที่สองของประเทศไทย ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2523 อยู่ห่างจากเกาะสมุยไปทางทิศตะวันตกประมาณ 20 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 63,750 ไร่ เป็นพื้นดินเพียง 50 ตารางกิโลเมตร นอกนั้นเป็นพื้นน้ำ ประกอบด้วยเกาะต่าง ๆ 42 เกาะ ส่วนมากเป็นเกาะหินปูน เกาะที่สำคัญได้แก่ เกาะวัวตาหลับ เกาะพะลวย เกาะวัวจิ๋ว เกาะแม่เกาะ เกาะสามเส้า เกาะไผ่ลวก เกาะคา เกาะหินดับ เกาะวัวกันตัง
สถานที่น่าสนใจภายในอุทยานฯ ได้แก่ เกาะวัวตาหลับ เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ด้านหน้าที่ทำการเป็นหาดทรายขาวสะอาดและใกล้ที่ทำการอุทยานฯ มี ถ้ำบัวโบก ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยรูปร่างคล้ายบัวบาน ถัดไปมีทางเดินขึ้นไปยัง จุดชมวิว บนยอดเขา ระยะทางเดินประมาณ 400 เมตร ซึ่งจะมองเห็นหมู่เกาะอ่างทองทอดตัวเรียงรายเป็นแนวยาวไปบนพื้นน้ำสีครามเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม ทะเลใน หรือ ทะเลสาบกลางภูเขา อยู่บนเกาะแม่เกาะเป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาโดยเกิดจากแอ่งหินปูนที่ยุบตัว ทะเลในมีลักษณะเป็นวงรี กว้าง 250 เมตร ยาว 350 เมตร ลึก 7 เมตร มีเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่
สำหรับเมนูที่สาม จากอุทยานฯ หมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี ได้แก่ “แกงส้มปูทะเลหน่อไม้ดอง” ที่ได้จากวัตถุดิบล้ำค่าในท้องถิ่น ปูทะเลตัวโตเนื้อแน่นสด ๆ จากทะเลอ่าวไทย แกงคู่กับหน่อไม้ดอง ถึงรสถึงเครื่องตามต้นตำหรับแกงส้มปักษ์ใต้แท้ ๆ
“ใบโกงกางทอด น้ำพริกกะปิเกาะเหลา” อุทยานฯ หมู่เกาะระนอง
ส่งท้ายที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง จ.ระนอง มีพื้นที่ชายฝั่งทะเล ปกคลุมไปด้วยป่าชายเลนที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง เป็นเขตสงวนชีวมณฑลโลก ล่องเรือชมป่าชายเลนสามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี บริเวณต้นโกงกางยักษ์เป็นป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์ทางชีวภาพสูงซึ่งต้นโกงกางยักษ์มีอายุราวประมาณ 200 ปี มีพันธุ์ไม้หลากหลายชนิดให้ศึกษา เป็นพื้นที่ลาดจากทิศตะวันออกของจังหวัดระนอง สามารถเดินทางโดยเรือเพื่อชมต้นโกงกางยักษ์
ส่วนพื้นที่ใกล้ชายฝั่ง ได้แก่ เกาะบางจาก เกาะยิว เกาะทรายดำ เกาะสน สภาพพื้นที่เป็นป่าดงดิบ พื้นที่ห่างจากชายฝั่ง ได้แก่ เกาะช้าง เกาะทะลุ เกาะตาครุฑ เกาะหม้อ เกาะปริง เกาะไร่ และเกาะไฟไหม้ บริเวณเกาะมีปะการังกระจายโดยรอบ อุทยานประกาศปิดการท่องเที่ยวและการพักแรมบริเวณอ่าวไข่เต่าและเกาะช้าง ระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม-14 ตุลาคม ของทุกปี
สถานที่ท่องเที่ยวภายในเขตอุทยานฯ ได้แก่ หาดหินงาม อยู่บนเกาะไฟไหม้ ซึ่งเป็นเกาะเล็ก ๆ อยู่ห่างจากชายฝั่งแนวเดียวกับเกาะช้าง สภาพพื้นที่เป็นป่าดิบชื้น และมีหาดหินงาม ซึ่งเป็นหินกลมมนก้อนเล็ก ๆ หลากสี เมื่อสะท้อนกับแสงแดดและน้ำทะเลที่สาดซัดจะแวววาวสวยงาม หรือ เกาะทรายดำ เป็นเกาะซึ่งมีชุมชนเก่าแก่ขนาดใหญ่อาศัยอยู่กว่าร้อยปี ประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง สภาพพื้นที่เกาะสวยงามด้วยป่าเขาและโขดหิน โดยเฉพาะจุดเด่นของหาดทรายดำ ซึ่งเกิดจากดินและเศษไม้ที่พัดมาจากใต้ทะเลและทับถมเป็นเวลานานจนกลายเป็นพื้นที่หาดกว้างสีดำดูแปลกตา
อ่าวเขาควาย ลักษณะอ่าวเป็นรูปโค้งเข้าหากันคล้ายกับเขาควาย เป็นจุดที่นิยมถ่ายภาพและจุดชมดวงอาทิตย์ตกสวยงาม ด้านตอนกลางของอ่าวสามารถชมความโดดเด่นของหินทะลุที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ทางด้านใต้ของอ่าวเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวมอแกน และ อ่าวใหญ่ เป็นอ่าวที่กว้างที่สุดของเกาะ มีความยาว 3-4 กิโลเมตร มีจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม รวมถึงเป็นจุดศูนย์รวมกิจกรรมต่าง ๆ บนเกาะ
สำหรับเมนูที่สี่จากอุทยานฯ หมู่เกาะระนอง จ.ระนอง ได้แก่ “ใบโกงกางทอด น้ำพริกกะปิเกาะเหลา” วัตถุดิบจากป่าชายเลนแห่งเมืองระนอง โดยนำใบโกงกางอ่อนใบที่ 2 จากยอดอ่อน ซึ่งมีรสเค็มมันและยังมีสรรพคุณเรื่องช่วยรักษาแผลในกระเพาะ แก้วิงเวียน อาเจียน นำมาท็อปหน้าด้วยกุ้งสับหรือหมูสับชุบแป้งทอดกรอบ ทานคู่กับน้ำพริกกะปิที่ใช้กุ้งเคยจากเกาะเหลาแหล่งผลิตกะปิขึ้นชื่อของระนอง