เสี่ยหนู นายกฯ คนที่ 30 ส้มหล่น 3 ป.?
ความคลุมเครือในวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังต้องรอศาลรัฐธรรมนูญตัดสินชี้ชะตาในวันที่ 24 ส.ค. 2565
มีการพยากรณ์นายกรัฐมนตรีคนต่อไปที่จะเข้ามารับไม้ต่อจากพล.อ.ประยุทธ์ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี – ครบ 8 ปี
ชื่อของเสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พรรคร่วมรัฐบาลอันดับสอง ยืนเด่น ต่ออยู่แถวสอง เป็นรองแต่เพียงรุ่นใหญ่ 3 ป.พล.อ.ประยุทธ์ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แม้กระทั่ง บิ๊กป็อก-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
เสี่ยหนู-อนุทิน แต่งตัว-ผัดหน้ารอเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ตั้งแต่ไม้แรก เพราะมีชื่ออยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย
เป็น 1 ใน 5 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากทั้งหมด 3 พรรคการเมือง ที่มีส.ส.ตั้งแต่ 25 คนขึ้นไปและยังไม่ถูกตัดสิทธิ์การเสนอชื่อออกจากแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
ยกเว้น พล.อ.ประยุทธ์ จากพรรคพลังประชารัฐ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากพรรคก้าวไกล หรือ พรรคอนาคตใหม่เดิม ที่ติดบ่วงคดีถือหุ้นสื่อ
ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน ได้แก่ 1.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 2.นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ 3.นายชัยเกษม นิติสิริ พรรคประชาธิปัตย์ คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคภูมิใจไทย คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล
รัฐธรรมนูญมาตรา 88 บัญญัติไว้ว่า ในการเลือกตั้งทั่วไป ให้พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแจ้งรายชื่อบุคคลซึ่งพรรคการเมืองนั้นมีมติว่าจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีไม่เกิน 3 รายชื่อต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อนปิดการรับสมัครเลือกตั้ง
หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย สถานะนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ ครบ 8 ปี ในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 จะเข้าสู่ขั้นตอนเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี โดยสภาผู้แทนราษฎร
รัฐธรรมนูญมาตรา 159 บัญญัติให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามและเป็นผู้มีชื่อในบัญชีรายชื่อพรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88
การเสนอชื่อต้องมี ส.ส.รับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวน ส.ส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร โดยมติของสภาผู้แทนราษฎรที่เห็นชอบต้องลงคะแนนโดยเปิดเผยและมีคะแนนเสียง “มากกว่ากึ่งหนึ่ง” ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร
ในทางกฎหมาย เสี่ยหนู-อนุทิน มาตามครรลองรัฐธรรมนูญทุกตัวอักษร ทุกมาตรา
ในทางการเมือง พรรคภูมิใจไทย คือ พรรคร่วมรัฐบาลที่มี ส.ส.เป็นอันดับที่สอง 62 เสียง ที่เป็นตัวแปรสำคัญของพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลทุกขั้วจะขาดไม่ได้
เสี่ยหนู-อนุทิน อาจจะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีส้มหล่น เป็นนายกรัฐมนตรีขัดตาทัพ 8-9 เดือนก่อนถึงวันเลือกตั้งครั้งหน้าก็ยังมีความเป็นไปได้
เพราะยังมีบิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตรเป็น ก้างขวางคอ นั่งขวางเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการอยู่ มิหน้ำซ้ำยังมีลุ้นเป็นนายกรัฐมนตรีก็อกสอง
บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร คั่วเก้าอี้ นายกรัฐมนตรีคนนอก นอกบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมือง เพราะรัฐธรรมนูญบทเฉพาะกาลกำหนดให้ ส.ว.มีส่วนร่วมเลือกบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ก๊อกแรกช่วง 5 ปีแรก
รัฐธรรมนูญมาตรา 272 ใน “บทเฉพาะกาล” บัญญัติไว้ว่า ในระหว่าง 5 ปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ การให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีให้ดำเนินการตามมาตรา 159 เว้นแต่การพิจารณาให้ความเห็นชอบเห็นชอบตามมาตรา 159 วรรคหนึ่ง ให้กระทำในที่ประชุมร่วมของรัฐสภา และมติเห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลใดให้เป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 วรรคสาม ต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา (ส.ส.+ส.ว.)
“ในระหว่างเวลาตามวรรคหนึ่ง หากมีกรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 ไม่ว่าด้วยเหตุใด และสมาชิกของทั้งสองสภารวมกันจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาเข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภาขอให้รัฐสภามีมติยกเว้นเพื่อไม่ต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88
ในกรณีเช่นนั้น ให้ประธานรัฐสภาจัดให้มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาโดยพลันและในกรณีที่รัฐสภามีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาให้ยกเว้นได้ ให้ดำเนินการตามวรรคหนึ่งต่อไป โดยจะเสนอชื่อผู้อยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 หรือไม่ก็ได้”รัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรคสอง เปิดช่องให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนนอกได้
อย่างไรก็ดีการเลือกตั้งครั้งหน้า เสี่ยหนู-อนุทิน ที่เข้าได้กับพี่ใหญ่และนายใหญ่ การันตีกลับมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลในสมัยหน้าแน่นอน ทำให้พรรคภูมิใจไทยเนื้อหอมที่สุด จนมีนักการเมืองต่างขั้ว ต่างค่ายและบ้านใหญ่ ตบเท้าร่วมชายคา
“เที่ยวหน้าขอสัก 6 กระทรวงได้ไหมพี่น้อง พี่น้องเลือกมาเต็ม ๆ เลยครับ เลือกให้เยอะๆ ถ้าเลือกมาเยอะ ๆ จำเป็นต้องเป็นนายกฯ ก็ต้องเป็นครับ ไม่ต้องเชียร์ใคร”นายอนุทินไฮปาร์คบนเวทีเปิดตัวว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดลพบุรี
ในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ พรรคภูมิใจไทยของเสี่ยหนู-อนุทิน มีเก้าอี้รัฐมนตรีในโควตารัฐมนตรีว่าการ ได้แก่ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ขณะที่รัฐมนตรีช่วยว่าการ ได้แก่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ไล่ตั้งแต่เปิดตัวว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดพิจิตร ได้แก่ นายภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์ นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ และนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ แห่งบ้านใหญ่ภัทรประสิทธิ์ ตระกูลใหญ่ขจรประศาสน์
นอกจากนี้เสี่ยหนู-อนุทินยังยอมรับว่าอยู่ระหว่างพูดคุยกับ เสี่ยบี-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตแกนนำกปปส. ลูกหม้อประชาธิปัตย์และศิษย์เก่าพลังประชารัฐ เปิดดีลมารับบทเป็นแม่ทัพกทม.ให้กับพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า
“พี่บีกับผมเพื่อนกันตั้งแต่เด็กแล้ว เพื่อนกันตั้งแต่รุ่นคุณแม่โน่น ถ้ามีโอกาสที่ดี พรรคภูมิใจไทยกับท่านพุทธิพงษ์เกิดมีอะไรทำงานร่วมกันได้ เราก็อ่อนอยู่ในกรุงเทพฯอยู่ ถ้าเรามีคนที่มีความสามารถ และเข้าใจพื้นที่ ทุกอย่างก็เป็นไปได้หมด”
รวมถึงบ้านใหญ่สะสมทรัพย์ แม้นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ส.ส. นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา จะปฏิเสธ แต่ไม่ทิ้งลายนักการเมืองรุ่นลายครามถึงอนาคตที่จะมาสวมเสื้อทีมภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่า “เป็นเรื่องอนาคต”
เสี่ยหนู-อนุทิน ทยอยเดินสายเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กินแดนพรรคเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์และพรรคคู่แข่งอย่างพรรคเพื่อไทย
จังหวัดลพบุรี ได้แก่ นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช เขต 2 นายนรินทร์ คลังผา เขต 3 และนายเกียรติ เหลืองขจรวิทย์ เขต 4 ส่วนเขต 1 มีกระแสข่าวว่า นายประทวน สุทธิอำนวยเดช ส.ส. พลังประชารัฐ จะย้ายค่ายมาอยู่กับภูมิใจไทย
จังหวัดศรีสะเกษเปิดตัวบ้านใหญ่แซ่จึง นายปวีณ-นางผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย บ้านใหญ่เพ็งนรพัฒน์ นางอุดมลักษณ์-นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย และบ้านใหญ่ไตรสรณกุล นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย
ล่าสุดจังหวัดกระบี่ นายกิตติ กิตติธรกุล เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต1 นายถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 นายสฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3
รวมถึง นายกิตติชัย เอ่งฉ้วน รองนายกองค์การบริการส่วนจังหวัด (อบจ.) กระบี่ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและจังหวัดพังงา ได้แก่ นายอรรถพล ไตรศรี ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต 1 นายอำนาจ ดำรงพิทยากุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2
ไม่แน่ว่า การเลือกตั้งครั้งหนี้ เสี่ยหนู-อนุทิน อาจจะถึงฝั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ก็เป็นได้