IMFลดGDPโลกปี 2019เหลือ 3.3

EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ วิเคราะห์ เรื่อง IMF ลด GDP โลกปี 2019 เหลือ 3.3% ชี้ความเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงขึ้น
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แถลงการณ์ปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกในปี 2019 เหลือ 3.3% ลดลงจาก 3.5% รวมถึงคาดการณ์ปริมาณการค้าโลกที่ถูกปรับลดลงเหลือ 3.4% จาก 4% จากประมาณการเดิมตามรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ในเดือนมกราคม ปี 2019 โดยมองว่า ความเสี่ยงหลักต่อเศรษฐกิจโลก ได้แก่ มาตรการกีดกันทางการค้า เศรษฐกิจจีนที่ชะลอลงจากการปฏิรูปเศรษฐกิจภายในและสงครามการค้า เศรษฐกิจยูโรโซนที่ชะลอตัวต่อเนื่องจากปัจจัยเฉพาะในหลายประเทศสมาชิก
โดย IMF ปรับลดตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของเขตยูโรโซนปี 2019 ลงเป็น 1.3% (จากเดิม 1.6%) (รูปที่ 1) และปรับลดประมาณการของประเทศหลักในยูโรโซนทั้งหมดจากความเสี่ยงภายในที่ต่อเนื่องมาจากปีก่อน เช่น ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ในเยอรมนีที่ชะลอลงจากมาตรฐานค่ามลพิษรถยนต์ฉบับใหม่ อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่วิกฤตหนี้สาธารณะของอิตาลี และการประท้วงของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองในฝรั่งเศส อีกทั้งบทสรุป Brexit ที่มีความไม่แน่นอนสูงยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง

ในอีกด้าน เศรษฐกิจสหรัฐฯ ถูกปรับลดประมาณการการเติบโตปี 2019 เป็น 2.3% (จากเดิม 2.5%) สะท้อนผลลบจากการปิดทำการของหน่วยงานรัฐฯ (government shutdown) ในช่วงเดือนมกราคม 2019 แต่ในภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถือว่าขยายตัวได้สูงกว่าระดับศักยภาพ ด้านเศรษฐกิจญี่ปุ่นถูกปรับคาดการณ์การเติบโตลงเป็น 1.0% (จากเดิม 1.1%) โดยภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกญี่ปุ่นได้รับผลกระทบในช่วงไตรมาสแรกของปี 2019
จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้ผลิตปรับตัวลง สำหรับปี 2020 IMF ประเมินว่า เศรษฐกิจกลุ่ม DM จะชะลอลงสู่ระดับ 1.7% จาก 1.8% ในปี 2019 เนื่องจากผลบวกของมาตรการกระตุ้นทางภาษีในสหรัฐฯ เริ่มหมดไป ในขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจถูกกดดันจากการปรับขึ้นภาษีการบริโภคในเดือนตุลาคมปี 2019 IMF ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจกลุ่ม EM ในปี 2019 จากการเติบโตที่ชะลอลงของเศรษฐกิจจีนและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำต่อเนื่องจากปี 2018 ในบางประเทศ IMF ปรับลดประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ EM ในปี 2019 ลงเป็น 4.4% (จากเดิม 4.5%)
โดยกลุ่มประเทศที่ถูกปรับลดลงมากที่สุดคือกลุ่มลาตินอเมริกาและตะวันออกกลางซึ่งยังเผชิญแรงกดดันจากความวุ่นวายทางการเมือง ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในอาร์เจนติน่า เวเนซุเอลา และอิหร่านที่ถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ รวมถึงปัจจัยสนับสนุนจากราคาน้ำมันที่คาดว่าจะลดลงจากปีก่อนหน้าและจะส่งผลลบต่อประเทศผู้ส่งออกน้ำมันเป็นหลัก เช่น ซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน สำหรับปี 2020 คาดว่าเศรษฐกิจกลุ่มประเทศ EM จะกลับมาขยายตัวราว 4.8% ด้วยแรงสนับสนุนหลักจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายประเทศ และภาวะการค้าโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวหากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนไม่ทวีความรุนแรง
มุมมองของอีไอซีต่อนัยเศรษฐกิจไทยสอดคล้องกับประมาณการใหม่ของ IMF โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่ชะลอลงและยังคงมีความเสี่ยงสูง อีไอซีปรับลดคาดการณ์ GDP ในปี 2019 ใหม่ที่ระดับ 3.6% (จากเดิม 3.8%) และปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกไทยปี 2019 ในรูปดอลลาร์สหรัฐชะลอลงเหลือ 2.7% (จากเดิม 3.4%) สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยและหลายประเทศในกลุ่มอาเซียนยังคงเผชิญความเสี่ยงจากปริมาณการค้าโลกมีแนวโน้มขยายตัวลดลงในปี 2019 จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจกลุ่มประเทศ DM และผลกระทบจากสงครามการค้า อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยจะยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและอุปสงค์ภายในจากการใช้จ่ายทั้งการลงทุนในประเทศที่คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวหลังการจัดตั้งรัฐบาล และการบริโภคภาคครัวเรือนที่มีแนวโน้มเติบโตตามการฟื้นตัวของรายได้และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ