สงกรานต์คนกรุงฯ ปี’62 คาดเงินสะพัด 25,000 ล้านบาท
สงกรานต์คนกรุงฯ ปี’62: คาดเม็ดเงินสะพัด 25,000 ล้านบาท … สภาพอากาศร้อนจัดกระทบไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายของแต่ละ GEN
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในช่วงสงกรานต์ปี 2562 คนกรุงเทพฯ มีการใช้จ่ายคิดเป็นเม็ดเงิน 25,000 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3.6 โดยเม็ดเงินดังกล่าว แยกเป็นค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสังสรรค์ (อาหารและเครื่องดื่ม) 9,650 ล้านบาท ค่าที่พัก/เดินทาง 6,650 ล้านบาท ช็อปปิ้ง 4,600 ล้านบาท ทำบุญไหว้พระ 2,050 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในกิจกรรมอื่นๆ อาทิ ให้เงินผู้ใหญ่ในครอบครัว ค่าเที่ยวสถานที่ต่างๆ/ดูหนังฟังเพลง/เล่นน้ำ 2,050 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่ภาคเหนือโดยเฉพาะเชียงใหม่
ซึ่งเป็นสถานที่ยอดฮิตในช่วงสงกรานต์ ทำให้คนกรุงเทพฯ มีการปรับแผนการท่องเที่ยว โดยหลีกเลี่ยงพื้นที่ดังกล่าวและวางแผนทำกิจกรรมในกรุงเทพฯ และเที่ยวในจังหวัดใกล้เคียงมากขึ้น เช่น ชลบุรี อยุธยา ระยอง นอกจากนี้ เป็นที่สังเกตว่า กิจกรรมหลายๆ อย่างที่คนกรุงฯ สนใจจะทำในช่วงสงกรานต์ จะแตกต่างกันไปตาม Generation แต่กลุ่มผู้บริโภคที่น่าจับตลาด ได้แก่ กลุ่มลูกค้า Gen Y และ Gen X ที่อยู่ในวัยทำงาน
เนื่องจากยังให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ก่อให้เกิดเม็ดเงิน ทั้งการจัดเลี้ยงสังสรรค์และช็อปปิ้ง แต่การจะเจาะตลาดกลุ่มนี้ได้ กลยุทธ์สำคัญคือ ราคาต้องสมเหตุสมผลและมีโปรโมชั่น/สิทธิพิเศษ ที่ดึงความสนใจ ดังนั้น ด้วยความแตกต่างของไลฟ์สไตล์ของแต่ละ Generation ผู้ประกอบการควรมุ่งเน้นการตลาดที่มุ่งตอบสนองความต้องการเฉพาะกลุ่ม (Customization) มากขึ้น เพื่อจะได้นำเสนอสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ได้มากที่สุด
คนกรุงฯ กว่าร้อยละ 56.0 เลือกวางแผนทำกิจกรรมในกรุงเทพฯ ช่วงสงกรานต์ปีนี้ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รองลงมาคือ กลับบ้านต่างจังหวัด (ร้อยละ 23) และท่องเที่ยว (ร้อยละ 21) ซึ่งเป็นที่สังเกตว่า ในระยะหลังคนกรุงฯ หันมาทำกิจกรรมอยู่ในกรุงเทพฯ มากขึ้น จากเดิมที่นิยมกลับบ้านต่างจังหวัด โดยกิจกรรมส่วนใหญ่ที่ทำนั้น มักเป็นกิจกรรมที่ทำภายในบ้านมากกว่ากิจกรรมนอกบ้าน นำโดยการจัดเลี้ยงสังสรรค์ พักผ่อนอยู่ภายในบ้าน เป็นต้น หรือหากเป็นกิจกรรมนอกบ้าน ก็จะเป็นการไปเดินเล่น-ช็อปปิ้งตามห้างสรรพสินค้าหรือการท่องเที่ยวระยะใกล้ๆ ซึ่งเหตุผลหลักมาจากความไม่สะดวกในการเดินทาง ประกอบกับสภาพอากาศเดือนเมษายนของไทยที่ร้อนอบอ้าว จึงอยากหลีกเลี่ยงการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง
อีกทั้งในปีนี้ พื้นที่ทางภาคเหนือโดยเฉพาะเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจังหวัดยอดฮิตในช่วงสงกรานต์ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละออง ทำให้คนกรุงเทพฯ บางส่วนที่วางแผนจะท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ ต่างมีการปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางโดยการหันมาทำกิจกรรมในกรุงเทพฯ หรือท่องเที่ยวในจังหวัดใกล้เคียงมากขึ้น เช่น ชลบุรี อยุธยา ระยอง ทดแทนการไปเที่ยวในภาคเหนือ ส่งผลให้คาดว่า บรรดาธุรกิจต่างๆ เช่น ค้าปลีก ร้านอาหาร ที่พัก/โรงแรม ในย่านกรุงเทพฯ และจังหวัดท่องเที่ยวใกล้เคียง น่าจะได้รับอานิสงส์มากขึ้น