สงกรานต์ “3 ความห่วงใยดีๆ” จาก คปภ.
“3 ความห่วงใยดีๆ” จากสำนักงาน คปภ. ที่มอบให้กับคนไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ และสิ่งนี้…จะเป็นบรรทัดฐานที่ทำให้คนไทย เข้าใกล้ “ระบบประกันภัย” ที่ดีและเหมาะสมอย่างที่สุด
ได้ชื่อว่าเป็นหน่วยงานรัฐที่มีบทบาทสำคัญมากสุด ทั้งต่อภาคธุรกิจในกำกับดูแลและภาคประชาสังคม สำหรับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในยุคของเลขาธิการฯที่ชื่อ “ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ”
ขนาด “รมว.คลัง” อย่าง…นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ยังเคยเอ่ยปากชม ทำนอง…“คปภ.ยุคนี้ ได้ผู้นำองค์กรที่เก่ง มีวิสัยทัศน์ และขยันทำงาน” จึงไม่แปลกที่ผลงานของ คปภ.ยุคนี้ จะมีปรากฏออกมาให้เห็นอย่างมากมาย
กับบทบาท “ส่งเสริมและสนับสนุน” การดำเนินธุรกิจของธุรกิจประกันภัยภาคเอกชน คู่ขนานไปกับการสร้างระบบประกันภัยที่สอดรับกับกระแส “วิวัฒนาการแห่งเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำในยุคดิจิทัล” และ “ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วของประชาชนผู้บริโภค”
ทั้งหมด…เพื่อนำสู่สิ่งที่ดีที่สุดของทุกคนในสังคมไทย
กับเทศกาลสงกรานต์ของปีนี้ ที่ได้เริ่มนับ 1 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น สำนักงาน คปภ. ได้จัดเตรียมแผนงาน ทั้งในส่วนภารกิจหลักของตัวเอง และอีกหลายส่วนงานที่ต้องบูรณาการร่วมกับหน่วยงานรัฐและภาคเอกชนอื่นๆ ทั้งนี้ เว็บไซต์ข่าว AEC10NEWS ขอสรุปสั้นๆ เป็น “3 ความห่วงใยจาก คปภ.” ดังนี้
1.ทุกครั้งของเทศกาลสำคัญๆ ที่มีวันหยุดยาวๆ ทาง สำนักงาน คปภ. ภายใต้การนำของ ดร.สุทธิพล มักจะแถลงข่าวและบอกกล่าวเป็นข่าวสารผ่านสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เพื่อให้ผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะทุกประเภท รวมถึงประชาชนที่ผู้โดยสารกับรถโดยสารประจำทาง รถโดยสารไม่ประจำทาง และรถยนต์ส่วนบุคคล ได้ขับขี่ด้วยสติ อย่าประมาทเลินเล่อ และไม่ดื่มของมึนเมาขณะขับขี่ รวมถึงตรวจสอบสภาพรถยนต์ให้อยู่ในภาวะ “พร้อมใช้” อยู่เสมอ ที่จะลืมไม่ได้คือ ตรวจสอบ “ระบบประกันภัย” ว่า ยังอยู่ในระยะการประกันภัยหรือไม่?
“อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัย เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากเตือนประชาชน ควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะเส้นทางการจราจรที่ไม่คุ้นเคย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นได้ และหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งควรทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและประกันชีวิตอื่นๆ ด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่างๆที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัย สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186”
ข้างต้น…คือสิ่งที่สังคมไทย มักจะได้เห็นจาก สำนักงาน คปภ.ยุคนี้เสมอๆ
2.สำนักงาน คปภ. มักจะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะบริษัทประกันภัย สร้างระบบประกันอุบัติ “ราคาถูก” ในช่วงเทศกาลสำคัญๆ และแม้จะเป็นการประกันภัยช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ถือว่า…ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้อย่างตรงจุดมากที่สุด
ล่าสุด สำนักงาน คปภ.ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจัดทำ “กรมธรรม์ประกันภัย สงกรานต์…ถูกใจ” ด้วยการจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยเพียง 7 บาท แต่คุ้มครองอุบัติเหตุสูงสุดถึง 100,000 บาท และมีระยะเวลาการคุ้มครองยาวนานถึง 30 วัน โดยเปิดให้เริ่มซื้อกรมธรรม์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา
แม้การซื้อกรมธรรม์ใน “ระบบประกันภัย” จะไม่เป็นหลักประกันชั้นเลิศที่ว่า “อุบัติจะไม่เกิดขึ้น” แต่การทำประกันภัยเอาไว้ ก็ช่วยสร้างความมั่นใจและเพิ่มความอุ่นใจได้ว่า หากต้องประสบอุบัติเหตุ “หนัก-เบา” ขึ้นมาคราใด? ประกันภัยจะช่วยผ่อนปรนและผ่อนคลายปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน
ทั้ง 2 ความห่วงใยข้างต้นจาก สำนักงาน คปภ. ล้วนเป็นสิ่งที่สังคมไทยมักพบเห็นอยู่บ่อยครั้ง แม้จะมีลูกเล่นในการส่งสัญญาณเตือนให้ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย หรือการปรับลดวงเงินซื้อกรมธรรม์ รวมถึงเพิ่มความหลากหลายอื่นๆ ก็ตาม แต่กับความห่วงใยที่ 3 ก็น่าจะเป็น “สิ่งเร้า” ที่จะทำให้ผู้เกี่ยวข้องหันมาให้ความสนใจกับระบบประกันภัยในยุคนี้มากยิ่งขึ้น
สิ่งนั้นคือ การที่ สำนักงาน คปภ. ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สมาคมประกันวินาศภัยไทย บริษัท ประกันภัย บริษัทสตาร์ท อัพ ทางด้านเทคโนโลยี และหน่วยงานอื่นๆ สร้างแอปพลิเคชั่นตัวใหม่ที่ชื่อ Me Claim ขึ้นมา เพื่อช่วยลดปัญหากรณีรถยนต์ชนกันบนท้องถนน โดยเปิดให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดาวน์โหลแอปฯ Me Claim ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่าน ซึ่ง เลขาธิการ คปภ. ย้ำว่า เพื่อมอบให้เป็นของขวัญแก่ประชาชนคนไทยได้มีแอปฯกลาง ที่จะช่วยลดปัญหาจากอุบัตเหตุรถยนต์ชนกัน โดยแอปฯดังกล่าว จะช่วยประสานทั้ง จนท.ตำรวจ บริษัทประกันภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเยียวยาและแก้ไขปัญหาดังกล่าว อันจะเป็นการลดทั้งเวลา และลดทั้งปัญหาจราจรติดขัดจากเหตุข้างต้นได้เป็นอย่างดี
สำนักงาน คปภ.ตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้ น่าจะมีการดาวน์โหลด แอปฯ Me Claim ไปใช้กันทั่วประเทศ ไม่ต่ำกว่า 600,000 คน เนื่องเพราะแอปฯตัวนี้มีจุดเด่น จุดแข็ง และจุดเสริม ที่จะนำไปใช้คู่ขนานกับแอปฯของแต่ละองค์กร แต่ละบริษัท ที่ต่างก็มีแอปฯเป็นของตัวเองได้อย่างลงตัว
พูดได้ว่า…ใครจะมีแอปฯอะไรอยู่ก่อนแล้ว ก็ไม่เป็นไร ขอเพียงแค่ดาวน์โหลด แอปฯ Me Claim เอาไว้ รับรอง…จากนี้ไป จะมีแต่เรื่องดีๆ ตามมา
เว็บไซต์ข่าว AEC10NEWS ถึงได้ย้ำว่า…เทศกาลสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทย ในปีนี้…คนไทยจะได้รับ “3 ความห่วงใย” ดีๆ จาก สำนักงาน คปภ. ดังเหตุผลข้างต้นนั่นเอง.