SCB CIO Officeบทวิเคราะห์
ธนาคารไทยพาณิชย์ ขอนำส่งบทวิเคราะห์ นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวร่วงลง ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวร่วงลง
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (18-22 มี.ค.2019) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรปต่างปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ คงอัตราดอกเบี้ย และส่งสัญญาณว่าจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2019 นอกจากนี้ ยังได้รับ Sentiment เชิงลบจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับประเด็น Brexit ในขณะที่ตลาดหุ้นโซนเอเชียต่างปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการที่ Fed ไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ รวมถึงแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 0.86% WoW ด้านตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นท้ายสัปดาห์ นักลงทุนคาดหวังเชิงบวกต่อผลการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.
ตลาดหุ้นไทย ปรับเพิ่มขึ้น ขานรับผลการประชุม Fed และหุ้นกลุ่มพลังงานที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ช่วงท้ายสัปดาห์ หุ้นขนาดใหญ่ปรับเพิ่มขึ้นมาก จากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศและต่างชาติ นักลงทุนคาดหวังเชิงบวกต่อผลการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.นี้
ตลาดน้ำมัน ปิดบวก ได้แรงหนุนจากกลุ่มโอเปกยกเลิกการประชุมฯ วันที่ 17-18 เม.ย. บ่งชี้ถึงการปรับลดการผลิตต่อไปถึงเดือน มิ.ย. และสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าคาด แต่น้ำมันเพิ่มขึ้นไม่มาก นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ตลาดทองคำ ปิดบวก ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ สรอ. หลังผลการประชุมของ Fed ที่ส่งสัญญาณว่าจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ตลาดหุ้นทั่วโลกมีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจากการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงของธนาคารกลางสำคัญๆ หลายแห่ง ซึ่งจะทำให้สภาพคล่องปรับตัวดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ที่สะท้อนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอลง การปรับลดประมาณการเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ และการปรับลดลงอย่างมากของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ซึ่งถูกใช้เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ได้ส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นเคลื่อนไหวผันผวน ขณะที่ยังมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในประเด็น Brexit และ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ดังนั้น นักลงทุนจึงยังควรใช้ความระมัดระวังในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง