SCB Emotional Marketing ทุกโมเมนต์เพื่อคุณ
ไทยพาณิชย์รุก Emotional Marketing ฉีกตัวเองให้ต่างจากสงครามแบงก์กิ้งเดิมๆ สร้าง 15 ธีมรับโมเมนต์แห่งความสุขทุกธุรกรรมการเงินผ่าน SCB EASY ในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ตั้งเป้าหวัง “นั่งในใจลูกค้า”
The Most Admired Bank คือเป้าหมายที่ธนาคารไทยพาณิชย์ต้องการฉีกตัวเองไปจาก “สงครามแบงก์กิ้ง” ที่แข่งขันอย่างรุนแรงและดุเดือดจากแบงก์พาณิชย์ยามนี้ พวกเขาหวังเพียง “ทำอย่างไรให้เข้าไปนั่งในใจของลูกค้า” คำตอบคือ ต้องเข้าไปอยู่ในทุกโมเมนต์ของลูกค้า เพื่อเติมเต็มความต้องการที่เปลี่ยนไปอย่างก้าวกระโดด
หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่พวกเขาเลือกใช้ เพื่อผลักดันให้ SCB EASY กลายเป็น “ดิจิทัลแบงก์กิ้งแพลตฟอร์ม” ที่ลูกค้าอยากใช้บริการ คือ การทำ Emotional Marketing โดนสลัดภาพการเป็น “โมบายแบงก์กิ้ง” รูปแบบเดิมๆ สู่การเป็น Human Banking อย่างเต็มตัว หวังเพียงให้ทุกการทำธุรกรรมผ่าน SCB EASY คือ โมเมนต์ดีๆ ที่มีความสุข
นายธนา โพธิกำจร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสาย Digital Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ บอกว่า นับตั้งแต่ มีการพลิกโฉม SCB EASY ครั้งใหญ่ สิ่งที่ได้เรียนรู้ คือ พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และเร็วขึ้นเรื่อยๆ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไป คือ “ความสุข หรือความประทับใจ” ที่เกิดขึ้นจากการใช้งาน “โมบายแบงก์กิ้ง แอปพลิเคชัน” ซึ่งยังคงเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักๆ นอกเหนือจากเรื่องของความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดการจดจำ และผูกพันกับ “ดิจิทัลแบงก์กิ้งแพลตฟอร์ม” ของธนาคารฯ
จากผลสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้งาน SCB EASY พบว่า นอกจากเรื่องของ UX (User Experience) และ UI (User Interface) ในแอปพลิเคชันที่จะต้องใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อนแล้ว การมีธีมก็ช่วยให้แอปพลิเคชันน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น
“ธนาคารฯจึงได้เริ่มสร้างสรรค์ ‘ธีม’ ต่างๆ ในแอปพลิเคชัน SCB EASY หลังจากยกเครื่องครั้งใหญ่เมื่อปี 2560 โดยเลือกทำเป็น ‘เฟสทีฟ ธีม’ (Festive Theme) เพื่อมอบเป็นโมเมนต์ดีๆ ให้กับลูกค้าผู้ใช้งานในทุกธุรกรรมการเงิน เพราะจากข้อมูลสถิติการใช้งานแอปพลิเคชัน SCB EASY พบว่าในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ จะมีจำนวนยอดผู้ใช้งาน และการทำธุรกรรมบน SCB EASY เป็นจำนวนมากกว่าช่วงปกติ ยกตัวอย่างเช่น เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเทศกาลคริสมาสต์ และปีใหม่ พบว่ามียอดการทำธุรกรรมทางการเงินกว่า 84 ล้านรายการ หรือคิดเป็นจำนวนเงินกว่า 400,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติที่จะมียอดการทำธุรกรรมเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 74 ล้านรายการ หรือคิดเป็นจำนวนเงินกว่า 340,000 ล้านบาท” นายธนา ระบุ และว่า
ธีมในแอปพลิเคชันจะถูกปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้เข้ากับแต่ละเทศกาล ซึ่งธีมที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุด คือ “ธีมเทศกาลวันตรุษจีน” ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ “SCB EASY Gifts” (ให้ของขวัญ) สิ่งเล็กๆ แต่แทนความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ ให้ผู้บริโภคส่งความสุขช่วงตรุษจีน ด้วยอั่งเปาดิจิทัลแบบที่เงินสดไม่สามารถทำได้ สามารถส่งความเฮงง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY รับเทศกาลมงคลนี้
รวมถึงอีกธีมที่หลายคนชื่นชอบมาก ไม่ว่าจะเป็น “ธีมวันสงกรานต์” เป็นธีมที่มีสีสัน และกราฟิกที่สนุกสนาน ให้ลูกค้ารู้สึกว่าทุกๆ อย่างรอบตัวล้วนมีแต่ความสุขไม่เว้นแม้แต่การทำธุรกรรมทางการเงิน จนถึงปัจจุบัน SCB EASY มี Festive Theme ออกมารวมกันแล้วกว่า 15 ดีไซน์ โดยในแต่ละธีมผู้ใช้งานสามารถเห็นได้จากหน้า Interface ของหน้า E-Slip หน้าหลัก หน้ารวมธุรกรรม และหน้ากดรหัสผ่าน ซึ่งในแต่ละธีมจะมีความพิเศษและแรงบันดาลใจที่แตกต่างกัน
เช่น “ธีมวันฮาโลวีน” ซึ่งเลือกใช้ตะเกียงฟักทองที่มีความน่ารัก รวมถึงขนม ลูกกวาด และเลือกใช้โทนสีเข้มเพื่อให้ความรู้สึกถึงความลึกลับ และน่าพิศวง หรือ “ธีมวันลอยกระทง” ที่ใช้ 3 สัญลักษณ์ที่สื่อถึงประเพณีลอยกระทง ได้แก่ แม่น้ำ กระทง และพระจันทร์เต็มดวง เป็นองค์ประกอบหลัก โดยเน้นการใช้โทนสีเย็นที่สื่อถึงความงดงามของบรรยากาศยามค่ำในคืนวันลอยกระทง พร้อมเติมกราฟิกรูปพลุ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่ถ่ายทอดกลิ่นอายของวันลอยกระทงออกมาได้อย่างลงตัว
“ธีมวันชาติ” ที่ใช้ธงชาติไทย สถานที่สำคัญของประเทศ และสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน อาทิ พระบรมหาราชวัง วัดโพธิ์ เสาชิงช้า มาเป็นส่วนประกอบ เพื่อให้คนไทยได้ระลึกถึงประวัติศาสตร์ชาติไทยที่งดงาม รวมถึง“ธีมวันคริสต์มาส” ที่ออกแบบโดยเน้นให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศการเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสในแบบที่แตกต่าง โดยเลือกใช้ลายกราฟิกรูปเกล็ดหิมะ และกวางเรนเดียร์ในโทนสีเงินมีประกายคริสตัลที่ให้ความเรียบหรูแต่ยังสื่อถึงความสุข และความสนุกสนานของผู้คนในช่วงเวลาของเทศกาลแห่งความสุขออกมาได้อย่างอบอุ่น
“ในปีนี้ เรายังคงนำเสนอ Festive Theme ให้กับช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ โดยดีไซน์ของแต่ละธีมก็จะมีความแตกต่างจากปีที่ผ่านมา คือ เน้นเข้าถึงพฤติกรรมของลูกค้ามากขึ้น มีความสนุกสนานมากขึ้น รวมถึงเพิ่มลูกเล่นต่างๆ เพื่อเข้าถึงทุกโมเมนต์แห่งความสุขของลูกค้า นอกจากนี้ ยังได้เตรียมนำเสนอ Festive Theme เพิ่มเข้ามาอีกหลากหลายตลอดทั้งปี เพราะรู้ดีว่าการเติมเต็มความต้องการของลูกค้ายุคดิจิทัล ไม่ใช่เพียงแค่เข้าใจความต้องการด้านธุรกรรมการเงินในแต่ละช่วงเวลาของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว หรือการนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ๆ สู่ผู้บริโภคเท่านั้น แต่ธนาคารจะต้องรู้ใจ ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ เพื่อให้สามารถเข้าเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มความสุขให้ทุกโมเมนต์ของลูกค้า” นายธนา ย้ำ.