รู้จัก ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้ท้าชิง เก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.
มาทำความรู้จัก ดร.เอ้ หรือ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้ท้าชิง เก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.
เปิดตัวแล้ว ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในนามของพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)
ศ.ดร.สุชัชวีร์ หรือ “พี่เอ้” มีภาพลักษณ์ของนักบริหารรุ่นใหม่ เป็นผู้นำด้านนวัตกรรม ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ มั่นอกมั่นใจว่า เขาจะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน
ดร.เอ้ เกิดที่ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2515 ปัจจุบันอายุ 49 ปี
จบชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนระยองวิทยาคม ก่อนเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ (วิศวกรรมก่อสร้าง) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ตั้งแต่ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 เขาได้ริเริ่มทำโครงการออกแบบอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน สายแรกของกรุงเทพ จากความฝันที่ต้องการแก้ปัญหาการจราจร โดยศึกษาหาข้อมูลงานวิจัยจากต่างประเทศทั่วโลก ลงมือคำนวณและเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อนำเสนอวิธีการคำนวณอย่างละเอียด ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของประเทศไทยในยุคนั้น ตั้งแต่ยังไม่มีโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในประเทศไทย
ในระดับปริญญาโท “สุชัชวีร์” เรียนด้านวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม ที่ The University of Wisconsin-Madison USA และ ด้านนโยบายและเทคโนโลยี ที่ Massachusetts Institute of Technology (MIT) USA
เขาจบปริญญาเอก Sc.D. (Geotechnical Engineering) ด้านวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม Massachusetts Institute of Technology (MIT) USA ในปี 2545
เขามีความสนใจนวัตกรรมโครงสร้าง เช่น ตึกสูงระฟ้า สะพานข้ามมหาสมุทร และอุโมงค์ลอดใต้ทะเล
ดร.สุชัชวีร์ ได้รับการประกาศเกียรติคุณ ไอเซนฮาวร์ เฟลโลว์ชิพ ประจำปี 2012 (Eisenhower Fellowships) ในฐานะผู้นำยุคใหม่ด้านวิศวกรรมเทคโนโลยี จากมูลนิธิประธานาธิบดี ดไวท์ ไอเซนฮาวร์ แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา จากการที่ ได้อุทิศตนในการวิจัยองค์ความรู้และพัฒนาวิชาการเทคโนโลยีก่อสร้างใต้ดินและอุโมงค์ เพื่อยกระดับระบบสาธารณูปโภค การบริหารจัดการน้ำ และคมนาคมโลจิสติกส์ของไทยที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน
เขาได้คิดค้นทฤษฎีการคำนวณขุดเจาะอุโมงค์ที่ก้าวหน้าด้วยประสิทธิภาพและความปลอดภัยซึ่งได้รับการอ้างอิงและนำไปใช้ประโยชน์มากเป็นอันดับ 5 ของโลก
ในปี 2553 “สุชัชวีร์” ได้รับตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมก่อสร้างใต้ดินและอุโมงค์คนแรกของประเทศไทย โดยใช้เวลาเพียง 7 ปีเศษ เท่านั้นหลังจากจบปริญญาเอก ซึ่งเร็วที่สุดของมหาวิทยาลัย
ดร.สุชัชวีร์ ได้รับเลือกเป็นอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หลังจากที่ลาดกระบัง ประสบวิกฤตเงิน 1,600 ล้านบาท หายจากบัญชีจนเป็นข่าวดังของประเทศไทยในช่วงนั้น
เขาได้พลิกวิกฤตเป็นโอกาสสร้างการเปลี่ยนแปลงขององค์กร เริ่มต้นด้วยการปรับโครงสร้างการทำงานให้ทันสมัย โดยใช้ระบบ Provost เข้ามาใช้เป็นครั้งแรกของประเทศไทย เหมือนมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก เช่น MIT Harvard และ Stanford ปรับอำนาจหน้าที่และการทำงาน ประหนึ่งมีถึงอธิการบดี 3 คน แบ่งหน้าที่การทำงาน เพราะอธิการบดีในระดับสากลต้องเป็น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO และ President) ทำหน้าที่ผลักดันวิสัยทัศน์ และกำกับนโยบายสู่ความเป็นจริง
ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ศ.ดร.สุชัชวีร์ สร้างผลงานไว้มากมาย เช่น การก่อตั้งสำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ หรือ SCiRA (Smart City Innovative Research Academy) เพื่อเป็นมันสมองและกำลังของคนเมือง ในการผลักดันการยกระดับคุณภาพชีวิตพลเมือง และเปลี่ยนแปลงเมืองให้มีความทันสมัย เหมือนเมืองชั้นนำในโลก โดยนำเสนอโครงการตรวจวัดฝุ่น PM 2.5 การสร้างป้ายรถเมล์ป้องกันฝุ่น แก้มลิงใต้ดินแก้ปัญหาน้ำท่วม ทางจักรยานลอยฟ้าประกับเสาต่อม่อรถไฟฟ้า สวนสาธารณะสัตว์เลี้ยง เสาไฟฟ้าไฮเทคที่ให้ทั้งแสงสว่างและตรวจวัดมลพิษ
เขายังริเริ่มมหาวิทยาลัยเด็ก หรือ Kid University เป็นแห่งแรกของอาเซียน โดยเปิดโอกาสให้เด็กอายุ 4 – 6 ขวบได้เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัย โดยได้เรียนรู้กับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ เกษตร การแพทย์ และศิลปะ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ของการศึกษาไทย และเป็นตัวอย่างของมหาวิทยาลัยอื่นทั่วประเทศ
ในวันที่อำลาผู้บริหาร คณาจารย์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อเตรียวตัวลงผู้ว่า กทม. “พี่เอ้” กล่าวตอนหนึ่งว่า “เกิดมาเป็นคนไทยทั้งที ให้มันรู้กันไป ว่าเราจะเปลี่ยนแปลงองค์กร เปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ หรือเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ให้ดีเหมือนประเทศที่พัฒนาแล้วไม่ได้”