เปิด ICONSIAM แล้วไง? เมื่อเทียบ One Bangkok
1 ใน 2 ของ “อภิมหาโครงการแห่งประเทศไทย” อย่าง ICONSIAM…
ได้ฤกษ์เปิดตัว “อภิมหาโครงการเมือง” ที่รวมอาณาจักรศูนย์การค้าแห่งยุค 2 อาคาร คอนโดมิเนียมหรูสุดสง่างาม 2 อาคาร และ 7 สิ่งมหัศจรรย์ มีพื้นที่ใช้สอย 7.5 แสนตารางเมตร เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 9-11 พฤศจิกายน 2561)
นับเป็นการเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่อลังการงานสร้าง ผ่านสายตาผู้คนมากมายนับล้านล้านคู่ ทั้งจากชาวไทยและจากทั่วทุกมุมโลก ผ่านโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะภาพเคลื่อนไหวสดๆ ที่มีการนำเสนอผ่าน YouTube และ Facebook Live
แม้ ICONSIAM จะมีผู้ถือหุ้นในโครงการฯ ระดับ “เจ้าตลาดฯ” อย่างกลุ่ม…สยามพิวรรธน์ แต่ทว่ากลุ่มแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น และเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ร่วมถือหุ้นฯ ต่างก็เป็นบริษัท “ลูก-แม่” กันและกัน ซึ่งมีบทบาทความสำคัญไม่ต่างจากกลุ่มแรก หรืออาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ ในแง่ของสัดส่วนเงินลงทุนและการเชื่อมต่อคอนเน็กชั่นระดับสากล
ซึ่งทั้ง 2 โครงการ…มีเจ้าสัวใหญ่ “2 ตระกูล : 2 เจริญ” (เจริญโภคภัณฑ์ และ เจริญสิริวัฒนภักดี) เป็นผู้มีส่วนร่วมสำคัญในความเป็นเจ้าของฯ ทั้ง ICONSIAM และ One Bangkok ที่ดูจะเบียดเสียดความยิ่งใหญ่ และช่วงชิงความเป็น “แลนด์มาร์คแห่งใหม่” ของกรุงเทพมหานคร เมืองที่ถูกยกย่องให้เป็น “ เมืองหลวงแห่งเออีซี (ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน) ” ในอนาคต
โดยทีมงานฯ ทั้งเบื้องหลังและเบื้องหน้า ต่างอยู่ในห้วงเวลาของการช่วงชิงความเป็น…“เป้าหมายปลายทางสุดท้าย” ของการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวและร่วมสัมผัสความยิ่งใหญ่ของ 2 อภิมหาโครงการฯที่ว่านี้
ยามนี้ ตัวเลขสถิติ…ตกเป็นของ One Bangkok ที่ทุ่มทุนสร้างโครงการฯ สูงสุดในประวัติศาสตร์ถึง 1.2 แสนล้านบาท ทั้งยังเหนือกว่าด้วย…ขนาดพื้นที่ 104 ไร่ และความสูงของตัวอาคารภายในโครงการฯที่ 437.03 เมตร
ขณะที่ ICONSIAM ใช้งบลงทุนน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของคู่แข่งด้วยซ้ำ ด้วยวงเงินลงทุน 5.4 หมื่นล้านบาท บนพื้นที่เพียง 55 ไร่ และมีตัวอาคาร (แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนเซส แอท ไอคอนสยาม : อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) สูงสุดภายในโครงการฯ เพียง 317.95 เมตร
แม้จะเพิ่งทำลายสถิติอาคารสูงที่สุดในประเทศไทย ของ “คิง เพาเวอร์ มหานคร” ที่ 314.2 เมตร เมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา แต่พวกเขา (ICONSIAM) ก็กำลังจะถูกทำลายสถิติลงในเวลาไม่เกิน 5 ปี หลังจากเปิดตัวโครงการฯนี้แล้ว
หากเทียบตัวเลขสถิติกันแล้ว เห็นได้ชัดว่า ICONSIAM มีต่ำกว่า “คู่แข่งร่วมชาติ” แบบไม่ติดฝุ่น! แต่สิ่งที่ ICONSIAM เหนือกว่า One Bangkok ชนิดเทียบกันไม่ได้ คือ 3 สิ่งที่ AEC10NEWS จะชี้ให้ได้เห็นนับจากวินาทีนี้ นั่นคือ…
1.ทำเล “ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ”…ที่มากด้วยมนต์เสน่ห์เกินจินตนาการจะบรรยายได้ หากมิได้เดินทางมาสัมผัสด้วยสายตาของตัวเอง ไม่ว่า…ยาม “ อาทิตย์สาดแสง ” ที่มองเห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามของ 2 ริมฝั่งแม่น้ำสายหลักของประเทศ หรือยาม “ อาทิตย์อัสดง ” ที่จะตื่นตาตื่นใจไปกับแสงสีตระการตาในยามราตรีของสายน้ำที่พาดผ่านกลางเมืองหลวงแห่งนี้
ทำเล “ชั้นเยี่ยม” เยี่ยงนี้…One Bangkok ไม่มี และจะไม่มีอย่างเด็ดขาด!
มากกว่านั้น คือการมีพื้นที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีความยาวมากกว่า 400 เมตร มากพอจะสร้างท่าเทียบเรือของตัวเองได้ถึง 3 แห่ง สิ่งนี้…ยิ่งจะเพิ่มมนต์เสน่ห์แห่งการเดินทางทางสายน้ำ ให้ควรค่าแก่การ “จดจำ” มิต่างจากการเดินทางไปเยี่ยมเยือนเมืองหลักชั้นนำของโลกที่มีสายน้ำสำคัญพาดผ่าน ทั้งในฟากฝั่ง…อเมริกา ยุโรป หรือแม้แต่ประเทศชั้นนำในเอเชีย
2.เงื่อนเวลา…การเดินหน้าโครงการฯได้ก่อน ย่อมทำให้ภาพการ “จดจำ” ของผู้คนมากมาย ทั้งในประเทศไทยและจากทั่วโลก…เกิดขึ้นก่อน! ซึ่งภาพการ “จดจำ” มักนำซึ่งมายอมรับใน “หัวใจ” และนำมาซึ่งความร่วมมือในเชิงธุรกิจ รวมถึงสร้าง “สิ่งเร้า” ต่อการเชิญชวนให้ผู้คนเดินทางมาเยี่ยมชมโครงการฯ ประหนึ่งสำนวน “บู๊ลิ้ม” ที่ว่า…“ชิงลงมือก่อนย่อมได้เปรียบ”
และ 3.ต่อเนื่องจากก่อนหน้านี้…กล่าวคือ ความร่วมมือในเชิงธุรกิจการค้าของ “ยักษ์ใหญ่” ทั้งในระดับโลก และระดับเอเชีย หลากหลายแบรนด์สินค้าชั้นนำของโลก ต่างตบเท้าเข้ามาเปิดสำนักงานสาขาและสโตร์…โชว์เคสท์ “สินค้าดัง” ของตัวเอง ในแบบ “ที่สุด” และ “ครั้งแรก” ที่เกิดขึ้นเฉพาะกับ ICONSIAM ไม่ว่าจะเป็น…
สยาม ทาคาชิมายะ โดยทาคาชิมายะห้างสรรพสินค้าระดับตำนานที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงจากประเทศญี่ปุ่น เปิดสาขาแรกในประเทศไทยบนพื้นที่ขนาด 36,000 ตารางเมตร ครอบคลุม 7 ชั้น ครบครันไปด้วยสินค้าที่หลากหลายสำหรับทุกเพศทุกวัย ทั้งหมดกว่า 500 แบรนด์ ในจำนวนนี้ เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นชื่อดังมากถึง 180 แบรนด์ และมีกว่า 80 แบรนด์ เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเป็นครั้งแรก
@Cosme สเปเชียลตี้สโตร์เครื่องสำอางที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เปิดสาขาแรกในประเทศไทย บนพื้นที่มากกว่า 300 ตารางเมตร, H&M เปิดสโตร์ในรูปแบบอาคารของตัวเอง Triplex Store 3 ชั้นสุดอลังการเป็นครั้งแรก, Urban Revivo แห่งแรกในประเทศไทย
JD Sports ร้านมิลติแบรนด์สปอร์แฟชั่นชื่อดังระดับโลก สาขาแรกในประเทศไทย, Nike Kicks Lounge แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บนพื้นที่มากว่า 210 ตารางเมตร นำเสนอสินค้าที่แตกต่างจาก Nike Store อื่นๆ, Adidas Original Store ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย,
นอกจากนี้ ยังมี ICONACTIVE พื้นที่สำหรับที่สุดของ “ไลฟ์สไตล์” ที่เป็นมากกว่า…สปอร์ตแฟชั่น ครั้งแรกในประเทศไทย บนพื้นที่กว่า 1,350 ตารางเมตร นำเสนอเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย แอคเซสเซอรี่ แบรนด์ดังจากทั่วโลกกว่า 40 แบรนด์
รวมถึง Jumbo Seafood ร้านอาหารซีฟู้ดชื่อดังจากสิงคโปร์ สาขาแรกในประเทศไทย
และที่จะไม่เอ่ยถึงไม่ได้ ก็คือ การเปิดตัวของ Apple Store แห่งแรกในประเทศไทย และเป็นแห่งที่ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อจาก…สิงคโปร์ ซึ่ง Apple ICONISAM จะเป็นจุดศูนย์รวมให้ผู้คนมาแลกเปลี่ยนความคิด เรียนรู้ และสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ไปด้วยกัน ทั้งยังเป็นที่ที่จะสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้กับคนในชุมชน มากกว่าการเป็นร้าน เพราะที่นี่ยังจะมีการเตรียมกิจกรรมน่าสนใจเอาไว้มากมาย ตั้งแต่โปรแกรมที่จะสร้างแรงบันดาลใจดีๆ ไปจนถึงการลงมือปฏิบัติจริง
ขนาด “ผู้บริหารระดับสูง” ที่ดูแลสายงานด้านการตลาดทั่วโลกของ “ค่ายแอปเปิ้ล” ยังอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากชมความงดงามและสุดตระการตาของทำเลแห่งนี้ พร้อมทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เนรมิตร “อาณาจักรแอปเปิ้ล” แห่งแรกใน ICON SIAM (ส่วนสาขาแห่งที่ 2 ในประเทศไทยอยู่ที่ “เซ็นทรัลเวิลด์” และมีแผนจะเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้านี้) ที่มี “ตราสัญลักษณ์ใหม่” ล้อกับอักษรไทย “อ.อ่าง” เพิ่มความโดดเป็น “อัตลักษณ์-เฉพาะตัว” ของแอปเปิ้ลผลนี้…เฉพาะกับคนไทย
และอักษร “อ.อ่าง” นี้ ยังหมายรวมถึง…“ไอโฟน” และ “ไอคอนสยาม” อีกด้วย
ทั้งหมดคือความ “เหนือกว่า” ซึ่งยากที่ “คู่แข่ง” จะเบียดชิงเพื่อหวังเอาชัยจาก ICONISAM ได้
นอกจากนี้ ICONISAM ยังจะสร้าง “7 สิ่งมหัศจรรย์” ขึ้นภายในโครงการ ได้แก่ 1. River Park หรือการสร้าง Community Space ขนาดใหญ่ริมแม่นำเจ้าพระยา สำหรับชุมชนเพื่อการทำกิจกรรมต่างๆ 2. ระบำสายน้ำที่ยาวที่สุดในอาเซียน ที่ชื่อว่า ICONIC Multimedia Water Feature เพื่อเป็นอีกหนึ่ง Iconic Attraction ที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ และประเทศไทย เทียบชั้นกับเมืองชั้นนำระดับโลกอื่นๆ
3. พื้นที่สุขสยาม คอนเซ็ปต์ค้าปลีกจากการผนึกกำลังของชุมชนท้องถิ่นใน 77 จังหวัด เพื่อร่วมกันสร้างแพลตฟอร์มุธุรกิจและพื้นที่เชิงวัฒนธรรม ช่วยต่อยอดเวทีการพัฒนาสินค้าชุมชนของประเทศไทย 4. ทรูไอคอนฮออล์ ศูนย์ประชุมนวัตกรรมล้ำยุค ที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจให้ผู้ประกอบการตลอดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และส่งเสริมธุรกิจ MICE ของประเทศ
5. รถไฟฟ้าสายสีทอง อีกหนึ่งโครงการสาธารณูปโภคที่ขับเคลื่อนจากภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมการเชื่อมต่อการเดินทางทั้งทางรถ -เรือ-ราง ที่นอกจากอำนวยความสะดวกในการเดินทางมาที่โครงการแล้ว ยังยกระดับชีวิตการเดินทางของผู้คนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย ซึ่งนอกจากรถไฟฟ้าสายสีทองแล้ว ไอคอนสยามยังสร้างท่าเรือขนาดใหญ่อีก 4 ท่า เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางทุกระบบเข้าหากันอย่างสมบูรณ์
6. พิพิธภัณฑ์ระดับโลก “ริเวอร์ มิวเซียม แบงค็อก” พื้นที่พิพิธภัณฑ์มาตรฐานระดับโลกครั้งแรกในประเทศ เพื่อรองรับการจัดแสดงงานศิลปะล้ำค่าระดับโลก เพิ่มโอกาสให้คนไทยเรียนรู้และเข้าถึงงานศิลปะจากทั่วโลกได้ง่ายขึ้น และ 7. ปรากฏการณ์รวมโลกในรอยไทย จากความร่วมมือร่วมแรงของศิลปินท้องถิ่นจากทุกแขนงทั่วประเทศ ไปจนถึงศิลปินแห่งชาติ และศิลปินระดับโลกจากหลายประเทศ ในการออกแบบองค์ประกอบต่างๆ ทำให้ไอคอนสยามเป็นหนึ่งพื้นที่ในการต่อยอดความสำเร็จของวงการศิลปะไทยไปสู่เวทีโลกได้ เช่น เสาจิตกรรมจากสี่ภาคของไทย ธงราวสุขสยาม รูปปั้นผีตาโขน ร่มบ่อสร้าง หนังตะลุง เป็นต้น
อีกสิ่งหนึ่ง…ที่จะมาเสริมความโดดเด่นให้กับ ICONISAM นั่นคือ การสร้าง “หอชมเมืองกรุงเทพมหานคร” เพื่อเป็น “ของขวัญ” ให้คนกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ บนความสูงที่ระดับ 459 เมตร บนพื้นที่ขนาด 4 ไร่เศษ ด้วยงบลงทุนสร้าง 4,600 ล้านบาท จากความร่วมมือของส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชน ซึ่งจะเป็นอีก “แลนด์มาร์ค” อันโดดเด่นของกรุงเทพฯ และอยู่ติดกับ ICON SIAM
Road to Southeast Asia และ Road to Thailand เกิดขึ้นแน่! และวันนี้ เชื่อว่ายังจะเป็น Road to CONISAM
ส่วนในอนาคตอันใกล้…นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกจะเลือกถนนสายไหน? ระหว่าง… Road to CONISAM หรือ Road to One Bangkok เวลาเท่านั้น…จะเป็นคำตอบที่ดีและถูกต้องที่สุด!!!.