คปภ.อย่าเล่นกล หลอกคนซื้อประกันโควิด “เจอ จ่าย จบ” นะจ๊ะ!

สะเทือนวงการประกันภัย สะท้านใจประชาชน เมื่อ “สินมั่นคงฯ” ประกาศ “เท” ลูกค้าผู้เอาประกันภัยโควิดฯ “เจอ จ่าย จบ” แถมคิดเงินห้วงเวลาประกันเสียอีก เผย! นี่คือบทพิสูจน์ ความเป็น “นายทะเบียนฯ” ของ ดร.สุทธิพล และบทบาท “เรกกูเรเตอร์” ของ คปภ.

ทำเอา “โลกทั้งใบ” ในประเทศไทย พุ่งเป้าเป็นตาเดียวกัน แล้วหันมา “โฟกัส” กับพฤติการณ์ของ บมจ.สินมั่นคงประกันภัย ที่ประกาศดังๆ ให้ได้ยินทั่วกัน เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2564 ทำนอง…
“บอกเลิก” กรมธรรม์ประกันภัยการติด เชื้อไวรัสโคโรนาแบบ เจอ จ่าย จบ หรือ COVID 2 in 1 ตามแบบและข้อความ หมวดที่ 2 เงื่อนไขทั่วไป และข้อกำหนด ข้อ 2.4.3 และข้อ 2.5.1
โดยให้กรมธรรม์ประกันภัยข้างต้น สิ้นสุดความคุ้มครองทั้งฉบับ เมื่อล่วงพ้นกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ผู้เอาประกันได้รับหนังสือเป็นต้นไป และบริษัทฯ จะคืนค่าเบี้ยประกันภัยที่ได้รับมาแล้วแก่ผู้เอาประกันให้แล้วเสร็จภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่กรมธรรม์ประกันภัยสิ้นผลบังคับ โดยหักเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้บังคับมาแล้วออกตามส่วน
แสบแปร๊บ! ถึงทรวงใน กับคำประกาศิต ที่ว่า… “จำเป็นต้องใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยฯ”
อย่างนี้…ก็มีด้วยเหรอ? บริษัทประกันภัย ที่ทำโปรโมชั่นขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยไปแล้ว มีการจ่ายเงินและทำสัญญาไปแล้ว จู่ๆ จะมายกเลิก…เทกันง่ายๆ ในภาวะที่โรคไวรัสโควิดฯ แพร่กระจายติดกันงอมแงม
เรื่องพรรค์นี้…มันทำได้หรือครับ? ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ.

ท่านในฐานะ “นายทะเบียน” และสำนักงาน คปภ. ที่มีบทบาทเด่นเป็นถึง “เรกกูเรเตอร์” ในวงการประกันภัย จะปล่อยให้บริษัทประกันภัยในอาณัติ “เท” ชาวบ้าน…ที่เป็นคู่สัญญา จริงๆ น่ะหรือ?
หลังจากที่มีสายโทรศัพท์นับร้อยนับพัน ต่อไปยัง “สินมั่นคงฯ” และโบรกเกอร์ต่างๆ รวมถึง สายร้อนๆ ถึงสำนักงานคปภ. ก็ยังไม่ได้รับคำตอบอยู่ดี นอกจากเอกสารที่ออกมาจาก “สินมั่นคงฯ” ที่ระบุ ต่อจากข้อความข้างต้นว่า….
ด้วยผลสืบเนื่องจาก การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 อันเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง จึงนับเป็นภาวะวิกฤตด้านสาธารณสุขในระดับที่ท้าทายจนไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปสู่จุดใด ส่งผลให้บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ต้องบริหารความเสี่ยงให้มีประสิทธิภาพ และจำเป็นต้องใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยการติด เชื้อไวรัสโคโรนาแบบ เจอ จ่าย จบ หรือ COVID 2 in 1 ตามแบบและข้อความ หมวดที่ 2 เงื่อนไขทั่วไป และข้อกำหนด ข้อ 2.4.3 และข้อ 2.5.1

และข้อความอีกท่อน…
บริษัทฯ ได้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบและเฝ้าติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยความห่วงใยมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทบทวนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับการดำเนินธุรกิจ และการกำหนดทางเลือกและแนวทาง ที่จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถบริหารทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เพื่อให้ความคุ้มครองและดูแลลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการทั้งหมดของบริษัทฯ อันได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุและการเดินทาง และประกันภัยอื่นๆ ได้อย่างดีที่สุดและยั่งยืนในระยะยาว
แสบสุดๆ คงไม่พ้นวลีนี้…
“และบริษัทฯ จะคืนค่าเบี้ยประกันภัยที่ได้รับมาแล้วแก่ผู้เอาประกันให้แล้วเสร็จภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่กรมธรรม์ประกันภัยสิ้นผลบังคับ โดยหักเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้บังคับมาแล้วออกตามส่วน”
แปลไทยเป็นไทย ก็คือ…ที่ผู้เอาประกันฯ ซื้อกรมธรรม์และมีผลบังคับใช้ในช่วงวันเวลาที่ผ่านมา ทาง “สินมั่นคงฯ” ขอเรียกเก็บเงินในส่วนนี้เอาไว้นะจ๊ะ
ไอ้ส่วนที่เหลือ…ก็จะคืนให้จ้ะ!

นาทีนี้…มีสายลับแจ้งว่า…ทาง คปภ.ภายใต้การนำของ ดร.สุทธิพล กำลังประชุมเครียด! เช็คต้นสายปลายเหตุกันให้ควั่ก! จะว่าไปแล้ว…หมุดหมายที่ “สินมั่นคงฯ” ทำเยี่ยงนี้…
ส่วนหนึ่ง เพราะมี “คำเตือน” จาก…ดร.สุทธิพล และ สำนักงานคปภ. มาก่อน ก็เรื่อง…แคมเปญ “เจอ จบ จ่าย” นั่นแหละ…
เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดฯ กระจายไปอย่างรวดเร็ว และอาจส่งผลกระทบต่อสถานะการเงินของ “สินมั่นคงฯ” จึงเป็น อีกสาเหตุหลัก ทำให้บริษัทประกันรายนี้… “จำเป็นต้องใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยฯ”
นี่จึงเป็น บทพิสูจน์ความเป็น “นายทะเบียน” และ “เรกกูเรเตอร็” ที่จะสะท้อนความเป็นตัวตนของ ดร.สุทธิพล และสำนักงาน คปภ. ว่า…
จะยืนเคียงข้างบริษัทประกันภัย
หรือ จะยึดหลักข้อกฎหมาย หลักความเป็นจริง และหลักมนุษยธรรม…แอ่นอก! ชนกับบริษัทประกัน เพื่อประชาชนคนไทย
งานนี้…“ปลัดฯตู่” นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะ ปธ.บอร์ด คปภ. คงนิ่งเฉยไม่ได้แล้ว เพราะดูเหมือน “ตู่อีกคน” ที่มีวัยวุฒิเป็น “ลุง” คงไม่ทนแน่!
โอกาส…สร้างชื่อในภาวะเสื่อม! เกิดขึ้นแล้ว… “ลุงตู่” คงไม่ยอมแน่ หาก คปภ.จะเล่นกล หลอกคนดูและคนเอาประกันฯ!!!
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เคยระบุถึงยอดขายกรมธรรม์ประกันภัยโควิดฯของทุกบริษัทฯรวมกันในช่วงเดือน เม.ย.- พ.ค. 2564 มีมากถึง 7.7 ล้านกรมธรรม์ คิดเป็นมูลค่าเบี้ยประกัน 2,700 ล้านบาท โดยหากรวมกับยอดการทำประกันในไตรมาสแรกปี 2564 อยู่ที่ 1.3 ล้านกรมธรรม์ มูลค่าเบี้ยประกันรับ 800 ล้านบาท ทำให้ยอดการทำประกันโควิด 5 เดือนแรก อยู่ที่ 9 ล้านกรมธรรม์ มูลค่าเบี้ยประกันรวมทั้งสิ้น 3,500 ล้านบาท
ขณะที่ช่วงเดือน มี.ค. -ธ.ค. 2563 พบว่ามี 9.3 ล้านกรมธรรม์ มูลค่าเบี้ยประกัน 4,100 ล้านบาท ส่งผลยอดรวมการทำประกันโควิดฯ นับแต่ปี 2563 จนถึง พ.ค.2564 มีรวมกัน18.3 ล้านกรมธรรม์ คิดเป็นมูลค่าเบี้ยประกัน 7,600 ล้านบาท.
.