เพราะอะไร ?! 10 อุตสาหกรรม จึงส่อแววฟื้นตัว
ในวิกฤติย่อมมีโอกาส แม้ภาคอุตสาหกรรมจำนวนหนึ่งอาจจะถูกผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แต่ก็ยังมีอุตสาหกรรมอีกจำนวนหนึ่งกลับมีโอกาสฟื้นตัว
อุตสาหกรรมที่ว่านี้ได้ถูกจัดแบ่ง ออกเป็น 4 หมวด ได้แก่ อุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวตามตลาดโลก, อุตสาหกรรมที่โดดเด่นต่อเนื่องจากเทรนด์สุขภาพ,อุตสาหกรรมที่เติบโตในช่วง Work from Home และอุตสาหกรรมที่มีทิศทางเติบโตตามสถานการณ์ COVID-19 ที่เริ่มคลี่คลาย
ซึ่งเรื่องนี้ “นายเกรียงไกร เธียรนุกุล” รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้อธิบายรายละเอียดให้ฟังว่า ในกลุ่มแรก อุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวตามตลาดโลก ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมอาหาร
กลุ่มนี้จะฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้มากขึ้น ตามการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมจำนวนประชากร
โดยกลุ่มอาหารได้รับแรงหนุนจากราคาสินค้าเกษตรที่มีทิศทางที่ดีขึ้นและการมีมาตรการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อ COVID-19 ในวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป
ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ค่ายรถยนต์ ญี่ปุ่นปรับแผนใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกมากขึ้น ด้านปัจจัยเสี่ยงของกลุ่มนี้ ได้แก่ การขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ต้นทุนค่าขนส่งทางเรือเพิ่มสูงขึ้น ส่วนอุตสาหกรรมอาหารเผชิญกับการขาดแคลนวัตถุดิบของโรงงานแปรรูปอาหาร
ส่วน อุตสาหกรรมที่โดดเด่นต่อเนื่องจากเทรนด์สุขภาพ ได้แก่ อุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์และสุขภาพ (รวมถุงมือยาง) อุตสาหกรรมยา, อุตสาหกรรมสมุนไพร และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร นั้น ได้รับแรงหนุนจากการแพร่ระบาดของ COVID-19
เนื่องเพราะปัญหามลพิษต่างๆ ที่ทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น บำรุงร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย แนวโน้มของการเจ็บป่วยประเภทโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
รวมถึงนโยบายที่สนับสนุนให้ไทยเป็น Medical Hub จะช่วยเสริมทิศทางการเติบโตของกลุ่มเหล่านี้…
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการที่ต้องพึ่งพาวัตถุดิบจากต่างประเทศสูง โรงพยาบาลต่างๆ นิยมใช้สินค้านำเข้ามากว่าที่ผลิตในไทย อีกทั้งห้อง LAB ในการทดสอบมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ยังมีไม่เพียงพอ
สำหรับ อุตสาหกรรมที่เติบโตในช่วง Work from Home ได้แก่ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและทำความเย็น และอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์
นายเกรียงไกร บอกว่า การ Work from Home ทำให้ผู้คนต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น คอมพิวเตอร์ เตาอบไมโครเวฟ ตู้เย็นและตู้แช่แข็ง เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ โทรศัพท์และอุปกรณ์ รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะทำงาน เฟอร์นิเจอร์ไม้ เฟอร์นิเจอร์โลหะ เป็นต้น
ซึ่งสินค้าเหล่านี้ เติบโตได้ดีตามการใช้ชีวิตในช่วง COVID-19 ที่ต้องอยู่กับบ้าน…
ยิ่งไปกว่านั้น สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Home Device) ที่มีระบบการทำงานที่ฉลาดมากขึ้น กำลังเป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้มียอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงของกลุ่มนี้ ประกอบไปด้วย การขาดแคลนชิปอิเล็กทรอนิกส์ ราคาเหล็กและทองแดงปรับเพิ่มขึ้น ขาดแคลนแรงงาน และค่าระวางเรือที่ปรับสูงขึ้น
สำหรับกลุ่มสุดท้ายคือ อุตสาหกรรมที่มีทิศทางเติบโตตามสถานการณ์ COVID-19 ที่เริ่มคลี่คลาย (กลุ่มแฟชั่นและไลฟ์สไตล์) ได้แก่ อุตสาหกรรมหัตถกรรมสร้างสรรค์ และอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง
เนื่องจาก…เมื่อเศรษฐกิจโลกเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ครัวเรือน และธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะโรงแรม ร้านอาหาร ก็จะเริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอยในสินค้ากลุ่มสร้างสรรค์ และการตกแต่งอาคารสถานที่ต่างๆ อย่างมาก
จากความต้องการที่ถูกอั้นไว้ช่วง COVID-19 ธุรกิจต่างๆ หยุดการใช้จ่าย หยุดการพัฒนา
ซึ่งในช่วงเวลาที่หยุดไปนั้น สิ่งของต่างๆ ได้ถูกใช้จนเต็มประสิทธิภาพแล้ว เมื่อใดก็ตามที่มีการฟื้นตัวจึงนับเป็นโอกาสของสินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ที่จะฟื้นตัวได้สูง
แต่ปัจจัยเสี่ยงของกลุ่มนี้ ได้แก่ ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ราคาสินค้าจากประเทศคู่แข่งที่ถูกกว่า การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์
ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนเข้ามาร่วมขจัดปัญหา เพื่อให้อุตสาหกรรมทั้งหลายสามารถเดินหน้า ไปได้อย่างราบรื่น เศรษฐกิจของประเทศก็จะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างเร็ววัน…