ทีมประกันฯเลื่อนที่ คปภ.รุกพื้นที่ชนบท
คปภ. ยก Mobile Insurance Unit ลงพื้นที่ชุมชนบ้านโนนสัง หนองบัวลำภู เดินหน้าให้บริการประกันภัยครบวงจร พร้อมเร่งรณรงค์ทำประกันภัย พ.ร.บ. 100%
เหตุเพราะเกิดอุบัติเหตุทางถนนบ่อยครั้ง แต่ชาวบ้านกลับทำประกัน พ.ร.บ.น้อยลง
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)กล่าวว่า นโยบายการดำเนินงานของ “ศูนย์บริการประชาชนด้านการประกันภัยเคลื่อนที่แบบครบวงจร” (Mobile Insurance Unit) ของคปภ. ซึ่งมีภารกิจลงพื้นที่ชนบทห่างไกล เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์บทบาทหน้าที่ของสำนักงาน คปภ. และให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับชุมชน ให้ความช่วยเหลือและรับเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย รวมทั้งลงพื้นที่ในชุมชนเพื่อศึกษาวิถีชีวิตของชาวชุมชนและรับฟังสภาพปัญหาด้านการประกันภัย ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมฐานเรียนรู้ต่างๆภายในชุมชน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักงาน คปภ. เจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน ผู้ไกล่เกลี่ยของ สำนักงาน คปภ. ผู้จัดการกองทุนประกันชีวิต และภาคธุรกิจประกันภัย ได้ลงพื้นที่ชุมชนบ้านโนนสัง ต.โนนสัง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ตามภารกิจข้างต้น ผ่าน “ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยเคลื่อนที่” (Mobile Complaint Unit) ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 ของการลงพื้นที่ตาม“โครงการ คปภ. เพื่อชุมชนปี 2” ประจำปี 2561
โดยมีนายโชติ เชื้อโชติ รอง ผจว.หนองบัวลำภู และนายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิน หัวหน้าสำนักงานจ.หนองบัวลำภู คอยให้การต้อนรับ และมีนายสุพล แก้วปัญญา สมาชิก อบจ.หนองบัวลำภู พาเยี่ยมชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพของผู้คนภายในชุมชน รวมทั้งเยี่ยมชมฐานการเรียนรู้ อาทิ ฐานเรียนรู้แหล่งโบราณคดีกุดกวางสร้อยชมผ้าไหมกุดกวางสร้อย ฐานเรียนรู้ตลาดปลาท่าศิลา ฐานเรียนรู้ช่องเขาขาด
นายสุทธิพลกล่าวอีกว่า จากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ยังได้รับฟังสภาพปัญหาด้านประกันภัยของชุมชนแห่งนี้แล้ว ยังได้รับรายงานจาก สำนักงาน คปภ. หนองบัวลำภู ด้วยว่าในพื้นที่อำเภอโนนสัง มีจำนวนรถจักรยานยนต์ที่จัดทำประกันภัยภาคบังคับ (ประกัน พ.ร.บ.) ประมาณ 49% ซึ่งเป็นอัตราที่น้อยกว่าอำเภออื่นๆ ขณะเดียวกันมีการเกิดอุบัติเหตุทางถนนจำนวนมาก เนื่องจากประชาชนไม่เข้าใจถึงความสำคัญของการทำประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.) และพบว่าเกษตรกรให้ความสำคัญทำประกันภัยข้าวนาปีน้อยมาก ทั้งที่ อ.โนนสังเป็นพื้นที่รับน้ำใต้เขื่อนอุบลรัตน์
ข้อมูลปี 2560 พบว่ามีเกษตรกรทำประกันภัยข้าวนาปี 4,416 ราย ในพื้นที่ 43,457 ไร่ ขณะที่ปีนี้มีเกษตรกรทำประกันภัยข้าวนาปีเพียง 48 ราย พื้นที่ 611 ไร่ อีกทั้งในพื้นที่มักเกิดอุทกภัย อันเนื่องมาจากร่องมรสุมพาดผ่าน ทำให้พืชสวน ไร่ นา บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายอยู่เนื่องๆ รวมทั้งพบว่าใน 6 อ.ของจ.หนองบัวลำภู มีสภาพปัญหาเกี่ยวกับสารเคมีพาราควอตอะมิทรีนอาทราซีน มีความเข้มข้นสูงทั้งในดินตะกอนดิน อ่างเก็บน้ำ น้ำประปา และผัก ในปริมาณที่สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน เนื่องจากมีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในปริมาณสูง โดยเฉลี่ย 1.73 ลิตรต่อไร่ ส่งผลทำให้ประชาชนในพื้นที่ป่วยเป็นโรคเนื้อเน่า
ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จะเร่งรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชนในพื้นที่ อ.โนนสัง ให้ตระหนักถึงความสำคัญต่อการนำระบบประกันภัยเข้ามาบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งประกันภัยประเภทที่กฎหมายบังคับและประกันภัยประเภทสมัครใจ อาทิ การรณรงค์ให้รถจักรยานยนต์ทำประกันภัย พ.ร.บ.ในส่วนกรมธรรม์ภาคสมัครใจ เช่น กรมธรรม์ประกันภัยสำหรับรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) หรือประกันภัย 100กรมธรรม์ประกันภัยสำหรับรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) หรือประกันภัย 200 ซึ่งเหมาะกับประชาชนผู้มีรายได้น้อยในชุมชนบ้านโนนสูง กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล กรมธรรม์ประกันสุขภาพ กรมธรรม์ประกันชีวิต กรมธรรม์อัคคีภัย รวมทั้งการทำประกันภัย นาข้าวปีอีกด้วย
“การลงพื้นที่ชุมชนบ้านโนนสังในครั้งนี้มี ความแตกต่างจากการลงพื้นที่ตามโครงการ คปภ. เพื่อชุมชนในครั้งก่อนๆ เนื่องจากมีการจัดกิจกรรมด้านประกันภัยเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบาย สำนักงาน คปภ.อาทิ กิจกรรมประกันภัย พ.ร.บ. 100% เพื่อรณรงค์ให้รถจักรยานยนต์ทุกคันทำประกันภัย พ.ร.บ. โดยได้รับความร่วมมือจากผู้แทนสมาคมนายหน้าประกันภัยไทยให้บริการทำประกันภัย พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ (ไม่เกิน 125 ซีซี) พร้อมออกกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมงาน คปภ. เพื่อชุมชนโนนสัง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ มูลค่ากรมธรรม์ละ 325 บาท จำนวน 100 คัน รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมการทำ (ประกันภัย 100)หรือ ประกันอุบัติเหตุรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทุกระดับเข้าถึงระบบประกันภัยและใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม โดยมีการให้บริการทำประกันภัย 100 หรือ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลสำหรับรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) พร้อมออกกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมงาน คปภ.เพื่อชุมชนโนนสัง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ มูลค่ากรมธรรม์ละ 100บาท คุ้มครองการเสียชีวิตสูงสุด 100,000 บาทต่อปี จำนวน 100 กรมธรรม์ ให้กับประชาชนที่มีอายุระหว่าง20-60 ปีบริบูรณ์ เพียงแค่นำบัตรประชาชนมายื่นก็จะได้รับความคุ้มครองจากระบบประกันภัยทันที” เลขาธิการ คปภ. ย้ำ
นอกจากนี้ ยังได้จัดเวทีเสวนาให้ความรู้ด้านประกันภัย หัวข้อ “ประกันภัยน่ารู้ สู่ชุมชน” โดยมีคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงาน คปภ. อาทิ นายชัยยุทธ มังศรี ผู้ช่วยเลขาธิการ สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ นางคนึงนิจ สุจิตจร ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย และนายอดิศร พิพัฒน์ วรพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายวางแผนและพัฒนากฎหมาย สำนักงาน คปภ. ตลอดจนนายกี่เดชอนันต์ศิริประภา ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมประกันวินาศภัยไทย โดยมีนายชนะพล มหาวงษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค เป็นผู้ดำเนินรายการ.