เปิดวิชั่น “วิทัย’ออมสิน” กับมิชชั่น “อุ้มรายย่อย-คนด้อยโอกาส”
แบงก์ออมสิน ยุค “วิทัย รัตนากร” กับเส้นทางความเป็น “ธนาคารเพื่อสังคม” ทุกอย่างถูกจัดวางอย่างเป็นระบบและรูปธรรม บนภารกิจช่วยเหลือรายย่อยและคนด้อยโอกาสทางเงิน! หลายเรื่องทับซ้อนที่คนนอกไม่เคยรับรู้?
บนเส้นทาง “ธนาคารเพื่อสังคม” เป้าหมายที่ธนาคารออมสินวาดหวังจะก้าวไปให้ถึงโดยเร็วนั้น…ถึงนาทีนี้ พวกเขาเข้าใกล้มากขึ้นทุกขณะ
นั่นเพราะ…วิกฤตไวรัสโควิด-19 รอบนี้ ดูเหมือนจะเป็น…ธนาคารออมสิน ที่ถูกเลือกจากรัฐบาลและกระทรวงการคลัง ให้เข้าไปดูแลรายย่อยและคนด้อยโอกาสทางการเงิน
มกราคม 2564…ธนาคารออมสิน เคยจัดทำโครงการสินเชื่อเสริมพลังฐานราก ตามนโยบายรัฐบาล โดยปล่อยกู้ให้กับรายย่อยฯ ต่อราย… 10,000 บาท, 30,000 บาท หรือ 50,000 บาท ขึ้นกับเครดิตวงเงินกู้แต่ละคน
ครั้งนั้น…ประสบผลสำเร็จอย่างมาก และใช้เวลาการพิจารณาให้สินเชื่อสั้นมาก เต็มวงเงิน 10,000 ล้านบาทในเวลาไม่นานนัก
กระนั้น ก็ถูกติติงในเรื่องวิธีการฯ เนื่องจากการต่อแถวเข้าคิวรับสิทธิ์ในวงเงินกู้ฯ ณ สาขาหรือสำนักงานของธนาคารออมสิน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดฯ อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อฯได้…
ล่าสุด กับ สินเชื่อสู้ภัยโควิดฯ วงเงิน 10,000 ล้านบาทเช่นกัน แต่ตีกรอบเงินกู้ต่อรายสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท ดอกเบี้ย 0.35% ต่อเดือน ระยะเวลากู้ 3 ปี เว้นชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือนแรก เริ่มให้กู้ผ่านแอปฯ MyMo เท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2564
ที่สำคัญ…คนที่เคยได้รับสินเชื่อในโครงการอื่นๆ มาก่อนหน้านี้ และยังมีภาระผูกพันกันอยู่ ก็สามารถจะเข้าถึงโครงการสินเชื่อสู้ภัยโควิดฯได้เช่นกัน
มีหลายเรื่องที่ทับซ้อนกันอยู่ และสังคมภายนอกไม่เคยรับรู้? ครั้งนี้…เว็บไซต์ AEC10NEWS จะพาไปฟังจากปากของ นายวิทัย รัตนากร ผอ.ธนาคารออมสิน กับเรื่องที่หลายคนไม่เคยรับรู้?
หนึ่ง…การพิจารณาสินเชื่อ ธนาคารออมสิน ใช้มาตรวัดในลักษณะ “หย่อนเกณฑ์”
ปกติ! ธนาคารพาณิชย์จะพิจารณาจาก “บูโร” หรือ พฤติกรรมในอดีตของผู้กู้ (เช่น…การค้างชำระ, ผิดนัดชำระ หรือถูกปฏิเสธสินเชื่อ ฯลฯ) คัดเฉพาะกลุ่ม “บูโร” เกรด… AA BB หรือ CC ส่วนที่ดีที่สุด เท่านั้น…จึงจะพิจารณาให้สินเชื่อ
แต่โครงการนี้ ธนาคารออมสิน…ให้โอกาสถึงระดับ CC DD และ EE รวมถึง กลุ่ม “โน สกอร์” หรือคนที่ไม่เคยเข้าถึงสินเชื่อมาก่อน สามารถจะได้รับสินเชื่อในโครงการนี้ได้ด้วย…
นั่นจึงทำให้คนกลุ่มนี้…ไม่เพียงได้รับสินเชื่อในโครงการฯ หากยังสร้างเครดิตทางการเงิน รองรับอนาคตการขอสินเชื่ออื่นๆ ตราบเท่าที่ยังรักษา “บูโร” ของตัวเองไว้ได้…
อีกหนึ่ง…ทุกโครงการสินเชื่อฯ ย่อมมีคนได้และไม่ได้สินเชื่อฯ คนที่ไม่ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ ธนาคารออมสินก็ได้แก้ปัญหานี้ โดยจัดโครงการรับจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ “เงินสดทันใจ” ร่วมกับกลุ่ม SWAD เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะขยายไปยังโครงการรับจำนำทะเบียนรถยนต์ในช่วงต่อไป
คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ! เฉพาะเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน แค่ 0.49% ต่อเดือน หรือราว 11% ต่อปี จากปกติ 14.99% ต่อปี (ซึ่ง 14.99% ก็ยังเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าท้องตลาดที่ 24% ต่อปี (จากอัตราเดิม 28% และธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดลงมาเหลือ 24%))
ทั้งหมด คือ สิ่งที่ นายวิทัย ผู้บริหารและพนักงานทุกคนของธนาคารออมสิน รู้สึกภาคภูมิใจกับการเป็น “ธนาคารเพื่อสังคม”
นอกเหนือจาก…เงินกู้ตามปกติที่ธนาคารออมสินมีให้กับ ผู้ค้ารายย่อย คนด้อยโอกาสทางการเงิน ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และคนทั่วไปแล้ว ในส่วนของ โครงการพิเศษ…พวกเขาก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างแข็งขัน
เห็นได้ว่า…จากต้นปี 2564 กับโครงการสินเชื่อเสริมพลังฐานราก สู่โครงการสินเชื่อสู้ภัยโควิดฯ และโครงการที่ถูกสร้างขึ้นมารองรับ หากมีคนพลาดหวังจากโครงการสินเชื่อสู้ภัยโควิดฯ นั่นคือ โครงการรับจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์และรถยนต์
ทั้งหมด…ถูกจัดระบบรองรับความต้องการทางการเงินในช่วงเวลาที่สำคัญและจำเป็นอย่างมากสำหรับใครหลายๆ คน โดยเฉพาะรายย่อยและคนด้อยโอกาสทางการเงิน
ไม่เพียงสร้าง ช่องทางรับรองรับความต้องการสินเชื่อฯ หากการ กำหนดอัตราดอกเบี้ย ที่ ธนาคารออมสิน…คิดกับผู้เข้าร่วมโครงการฯ ยังสร้างความเป็นธรรมที่แตกต่างจากสถาบันการเงิน ทั้งที่เป็นแบงก์และนอนแบงก์ อย่างเห็นได้ชัดและเป็นรูปธรรมอย่างที่สุด!
สมแล้วกับเป้าหมายยิ่งใหญ่ในความเป็น “ธนาคารเพื่อสังคม” ของธนาคารออมสิน.