คนไทยรับเงินสู้พิษโควิดฯแน่ๆ ช้าสุด! 1 ก.ค.นี้
จับตา! เม็ดเงิน 3.8 แสนล้าน จะไหลลงโครงการใด? คนไทยเหยื่อโควิดฯจะได้รับคนละเท่าไหร่? แต่ที่แน่ๆ คนไม่ต่ำกว่า 35 ล้านคน จะได้รับสิทธิ์ในฐานะ “เหยื่อพิษโควิดฯ” อย่างแน่นอน ช้าสุด! ลุ้นรับเงินไม่เกิน 1 ก.ค.นี้
เม็ดเงิน 3.8 แสนล้านบาท คือ งบประมาณที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า…มีพอจะใช้เพื่อการดูแลเศรษฐกิจ บรรเทาและเยียวยวผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
เงินก้อนนี้มาจาก…ส่วนที่เหลือของโครงการเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ราว 2.4 แสนล้านบาท จากงบสำรองฉุกเฉินฯและเงินงบประมาณปี 2564 อีกเกือบ 1 แสนล้านบาท ที่เหลือ 4 หมื่นล้านบาท มาจากงบดูแลด้านสาธารณสุข
สำทับจาก นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกฯและรมว.พลังงาน และ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ที่ยืนยันว่า…วงเงินดังกล่าวเพียงพอกับดูแลเศรษฐกิจและประชาชนในช่วงการระบาดของโควิดฯรอบที่ 3
ไม่จำเป็นต้องกู้เงินเพิ่มเติมแต่อย่างใด!!!
แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า…เงิน 3.8 แสนล้านบาท จะเอาไปใช้เพื่อการใด? แต่หลายฝ่ายวิเคราะห์กันว่า…รัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง น่าจะสานต่อโครงการรัฐว่าด้วยการ “แจกเงิน” กระตุ้นการใช้จ่าย เพื่อดันเศรษฐกิจในช่วงที่รายได้ต่างๆ ของรัฐบาลหดหาย…
โดยเฉพาะรายได้หลักจากการท่องเที่ยวที่เคยมีในปี 2562 ก่อนหน้าจะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดฯในปีรุ่งขึ้น …มากถึง 3.01 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 40 ล้านคนในปีนั้น
แม้เศรษฐกิจโลกจะดีขึ้น การส่งออกไปยัง 15 ประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยจะเติบโตขึ้น เช่นที่ “โฆษกกระทรวงการคลัง” น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เพิ่งแถลงตัวเลขเศรษฐกิจปี 2564 สดๆ ร้อนๆ เมื่อช่วงสายวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา
กระนั้น ก็ไม่อาจกู้สถานะรายได้จากการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ จากการบริหารและตัดสินใจที่ผิดพลาดของรัฐบาล โดยเฉพาะปม…ป้องกันการแพร่ระบาด การจัดหาและกระจายวัคซีนโควิดฯ รวมถึงไม่อาจเตียงและโรงพยาบาลได้อย่างเพียงพอในยามที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดฯ เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในรอบที่ 3
สำหรับโครงการรัฐที่น่าจะได้รับการสานต่อนับจากนี้ คงไม่พ้นโครงการในที่รัฐบาล โดยกระทรวงการคลังและกระทรวงแรงงาน (บางส่วน) เคยทำกันมาก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็น…
1.เราไม่ทิ้งกัน…แจกกันตรงๆ เข้าบัญชีของผู้มีสิทธิ์ ครั้งก่อนเคยมีราว 32 ล้านคน แต่รอบนี้…อาจเพิ่มเป็น 35 ล้านคน และโอนให้รอบเดียวเลย ไม่แยกเป็น 3 รอบ (เดือน) เหมือนครั้งนี้ ตามที่..บรรดาผู้บริหารของภาคเอกชนกดดันมา
2.คนละครึ่งเฟส 3 เพราะเป็นโครงการที่ดึงเอาเงินฝากของประชาชน เข้ามาร่วมใช้จ่ายกับเงินที่ภาครัฐสนับสนุน
3.เราเที่ยวด้วยกัน โครงการนี้…เป็นแค่การสานต่อโครงการ หลังจากภาครัฐสั่งหยุดเอาไว้ช่วยคราว ด้วยเหตุที่พบการสมคบคิดโกงกันเยอะมาก
4.บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งตามแผนเดิมนั่น ภาครัฐจะล้างไพ่และจัดสรรกันใหม่ เลือกคนจนจริงๆ และดูแลครอบคลุมทั้งครอบครัว แต่เพราะสถานการณ์ไวรัสโควิดฯ จึงต้องชะลอแผนการนี้ และน่าจะใช้แนวทางเดิมที่เคยทำในช่วงต้นถึงกลายปี 2563
สำหรับ โครงการเราชนะ ของกระทรวงการคลัง และ มาตรา 33 เรารักกัน ของกระทรวงแรงงาน นั้น ไม่แน่ว่ายังจะมีหรือไม่? เพราะหากภาครัฐ เดินหน้าโครงการเราไม่ทิ้งกัน และเพิ่มจำนวนผู้มีสิทธิ์แล้ว
2 โครงการนี้ อาจต้องพับไปก่อน
ยกเว้น! ว่า…คนที่เคยได้สิทธิ์ในโครงการเราชนะ และมาตรา 33 เรารักกันมาก่อน แต่มาในรอบนี้…ไม่ได้สิทธิ์เข้าร่วมโครงการเราไม่ทิ้งกัน ภาครัฐก็อาจจะบรรเทาความเดือดร้อนให้บ้าง…
อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้…ผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในฝั่งของ สศค. กระทรวงการคลัง และทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล กำลังหารือถึงความเหมาะสมของโครงการ คาดว่าในสัปดาห์หน้า…น่าจะมีความชัดเจน
เพราะได้รับการยืนยันจาก “โฆษกกระทรวงการคลัง” แล้วว่า…ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอโครงการและมาตรการ รวมถึงแผนงานและงบประมาณที่จะใช้ ให้คณะรัฐมนตรีได้พิจารณา
ด้วยหวังว่า…โครงการเหล่านั้น จะทัน “รอยต่อ” ของโครงการเราชนะ และ ม.33 เรารักกัน ที่จะสิ้นสุดโครงการในวันที่ 30 มิถุนายนที่จะถึงนี้
หมายความว่า…เม็ดเงินเหล่านี้ จะถูกส่งต่อและแจกจ่ายไปยังบัญชีเงินฝากต่างๆ ของผู้มีสิทธิ์ทั้ง 35 ล้านคน ก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2564
ส่วนการเข้าร่วมโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นในเร็วนั้น ดูเหมือนว่า…ใครที่เคยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการต่างๆ มาก่อนนั้น รอบนี้…น่าจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการฯโดยอัตโนมัติ เพราะข้อมูล DATA ต่างๆ หน่วยงานรัฐจัดเก็บไว้หมดแล้ว
อีกไม่กี่วัน…ทุกอย่างจะเห็นภาพชัด!
รอบนี้…ทุกคนที่มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาอย่างแน่นอน ส่วนจะได้ในโครงการใดบ้าง? และได้ในวงเงินเท่าใด? ไม่เกิน 1-2 สัปดาห์จากนี้…คงได้รู้กัน!!!.