ญี่ปุ่นจ่อซื้อฟรีซเซอร์เก็บวัคซีนหลังติดเชื้อพุ่ง
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ญี่ปุ่นแถลงว่า จะซื้อฟรีซเซอร์อีก 10,500 ตู้เพื่อจัดเก็บวัคซีนโควิด-19 เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับงานหนักในการปกป้องประชาชน ในขณะที่กรุงโตเกียวรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงทุบสถิติ
โดยญี่ปุ่น ซึ่งมีจำนวนประชากร 126 ล้านคน ได้ตกลงที่จะซื้อวัคซีนจำนวน 290 ล้านโดสจากบริษัทไฟเซอร์ , แอสตราเซเนกา และโมเดอร์นา ซึ่งเพียงพอสำหรับประชากร 145 ล้านคน
วัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์จำเป็นต้องเก็บในอุณหภูมิประมาณ -75 องศาเซลเซียส และวัคซีนของโมเดอร์นาต้องเก็บในอุณหภูมิประมาณ -20 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดความซับซ้อนยุุ่งยากในการขนส่ง
“มีงานหนักรอเราอยู่” โทคุอากิ โชบายาชิ ผอ.สำนักบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขกล่าวในการประชุมเตรียมความพร้อม
แม้ญี่ปุ่นจะมีผู้ติดเชื้อน้อยกว่าประเทศชาติตะวันตกมาก แต่การติดเชื้อใหม่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากอากาศหนาวขึ้นทำให้ประชาชนอยู่แต่ในอาคาร
จนถึงตอนนี้ ญี่ปุ่นมียอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 165,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 2,500 ราย และกรุงโตเกียวได้รับผลกระทบมากที่สุด
กรุงโตเกียวรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 602 รายในวันที่ 10 ธ.ค. และยอดผู้ติดเชื้อรายวันทั่วประเทศอยู่ที่ 2,078 ราย จากรายงานของสถานีโทรทัศน์ NHK
ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า สถานการณ์นี้จำเป็นต้องมีความระมัดระวังสูงสุด ขณะที่การแพร่ระบาดมีสัญญาณเล็กน้อยว่าชะลอตัวลง
โนบุโอ คิชิ รมว.กลาโหมได้ออกคำสั่งในสัปดาห์นี้ให้กองทัพ หรือที่เรียกกันว่า กองกำลังป้องกันตนเอง (Self Defence Forces – SDF) ส่งนางพยาบาลไปที่เมืองที่ได้รับผลกระทบสูงสุดในฮอกไกโด ทางเหนือของประเทศ
นอกจากนี้ รัฐบาลจะส่งพยาบาลจาก SDF ไปที่โอซาก้าด้วยเช่นกัน เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากรายงานของสื่อท้องถิ่นเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.
กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า ญี่ปุ่นจะได้วัคซีนเมื่อไร แต่ทางบริษัทแอสตราเซเนกาประกาศว่า จากทั้งหมด 120 ล้านโดสที่จะจัดส่งให้ญี่ปุ่น มีแนวโน้มว่า 30 ล้านโดสจะจัดส่งให้ได้ในไตรมาสแรกของปี 2564
รัฐบาลจะดูแลเรื่องวัคซีนและรับภาระค่าใช้จ่าย โดยบุคลากรทางการแพทย์ในด่านหน้า ผู้สูงอายุและประชาชนที่มีปัญหาสุขภาพจะได้รับวัคซีนก่อน
กระทรวงระบุว่า แพทย์และพยาบาลจะให้วัคซีนที่คลินิกและโรงพยาบาล ขณะที่สถานที่ซึ่งมีลานจอดรถ เช่น โรงยิม ห้างสรรพสินค้า และศูนย์ชุมชนจะได้รับการพิจารณาให้เป็นศูนย์ฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ บริษัทผู้ผลิตฟรีซเซอร์รายใหญ่ของญี่ปุ่น คือ PHC , Nihon Freezer และ Ebac รัฐบาลยังมีแผนจะซื้อน้ำแข็งแห้งมาใช้ในการจัดเก็บวัคซีนอีกด้วย
โนริโอะ สุกายะ ผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่อระบุว่า การฉีดวัคซีนช้ามีข้อดี “พูดตามตรง เป็นเรื่องดีหากเราสามารถเริ่มฉีดได้ภายในสิ้นปี แต่เราจะสามารถเรียนรู้ได้มากขึ้นถึงผลข้างเคียง และการจัดการระบบวัคซีนทั้งหมดที่ต้องจัดเก็บในอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียหากฉีดช้ากว่านั้น ”
ทั้งนี้ หน่วยงานทางการแพทย์ในสหราชอาณาจักรได้แนะนำให้ประชาชนที่เป็นโรคภูมิแพ้ อย่าฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ หลังจากมี 2 รายที่มีอาการแพ้วัคซีนในวันแรกของการฉีด