อาลีบาบารายได้พุ่ง 60%
รายได้ของอาลีบาบาซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซพุ่งพรวดถึง 60% ในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยได้แรงหนุนสำคัญจากลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในจีน
โดยอาลีบาบารายงานว่า มีจำนวนนักช้อปชาวจีนมากกว่า 450 ล้านคนที่เข้ามาใช้บริการของอาลีบาบาในระหว่างไตรมาสนี้ ด้วยค่าเฉลี่ยการใช้จ่ายถึง 1 ใน 3 ต่อปี
ยอดขายที่เพิ่มขึ้นหนุนให้รายได้ประจำไตรมาสสูงขึ้นมาอยู่ที่ 5,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่นักลงทุนยังคงไม่พอใจ ทำให้หุ้นของอาลีบาบาลดดิ่งลง 3% ในวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ อาลีบาบาซึ่งก่อตั้งโดยมหาเศรษฐีแจ็ค หม่า เป็นธุรกิจค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของจีน
ธุรกิจในจีนคิดเป็น 67% ของรายได้ของอาลีบาบา หรือประมาณ 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้น 41% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับคู่แข่งรายสำคัญจากสหรัฐฯ อย่างอเมซอน ซึ่งอ้างว่ามีบัญชีลูกค้ามากกว่า 300 ล้านราย โดยอาลีบาบาได้ขยายขอบเขตการให้บริการออกไปอีก รวมถึงระบบคอมพิวเตอร์คลาวด์และสื่อ ผ่านการให้บริการวีดีโอ YouKu Tudou
โดยอาลีบาบากล่าวว่า มีลูกค้ามากกว่า 870,000 สำหรับบริการธุรกิจคลาวด์ในไตรมาสสิ้นสุดเดือนมี.ค.ทำให้รายได้จากคลาวด์ในไตรมาสแรกพุ่งทะยานเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คือสูงถึง 314 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นอกจากนี้ รายได้จากสื่อดิจิทัลและบันเทิงยิ่งเติบโตสูงกว่าธุรกิจประเภทอื่น โดยมีตัวเลขการเติบโตถึง 234% จากปีก่อน มียอดรายได้ถึง 571 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ อาลีบาบารายงานว่า มีแผนจะขยายธุรกิจในต่างประเทศเพื่อหนุนให้บริษัทเติบโตยิ่งขึ้น โดยยอดขายค้าปลีกในต่างประเทศสำหรับไตรมาสแรกเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าจากปี 2559 มีมูลค่าถึง 353 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ในปี 2559 อาลีบาบาเข้าซื้อลาซาดา ซึ่งเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซชื่อดังของสิงคโปร์ ทำให้ผลกำไรโดยรวมในไตรมาสแรกของอาลีบาบาสูงถึง 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 98% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
แต่สำหรับปีงบประมาณที่ปิดในเดือนมี.ค. มียอดลดลงประมาณ 40% ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดทุนจำนวนมากในส่วนธุรกิจสร้างภาพยนตร์ของบริษัท
“ ผลลัพธ์ที่น่าพอใจแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจหลักของเรา รวมทั้งโมเมนตัมในแง่บวกของธุรกิจที่กำลังแจ้งเกิดใหม่ของเราด้วย ” แม็กกี้ วู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของอาลีบาบากล่าว.
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 34.71 บาท / 19 พ.ค. 2560