รัสเซียชิงฉีดวัคซีนโควิด-19 ก่อนชาติอื่น
เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. รัสเซียเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่มีชื่อเรียกว่า Sputnik V ให้กับบุคลากรที่มีความเสี่ยงสูงจะติดเชื้อในคลินิก 70 แห่งทั่วประเทศ ทำให้รัสเซียกลายเป็นชาติแรกในโลกที่ฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาให้ประชาชนจำนวนมาก
โดยมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งผลิตในรัสเซีย ให้กับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ครูและเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ เพราะเป็นกลุ่มที่เผชิญกับความเสี่ยงสูงสุดจากโรคระบาด
หลักการทำงานของวัคซีนเหมือนกับวัคซีนที่พัฒนาโดยทีมออกซ์ฟอร์ด – แอสตราเซเนกาในสหราชอาณาจักร ที่ใช้ไวรัสอื่นส่งต่อโมเลกุลจากไวรัสโคโรนาที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 เข้าสู่ร่างกายมนุษย์เพื่อกระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน
ทั้งนี้ จะมีการฉีดวัคซีนให้คนละ 2 เข็ม โดยเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 21 วัน
มีความเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเช่นนี้ในวันที่รัสเซียรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่สูงถึง 28,782 ราย รวมทั้ง 7,993 รายในกรุงมอสโก ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมทั่วรัสเซียอยู่ที่ 2,431,731 รายนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดในรัสเซีย
ทางการรายงานผู้เสียชีวิต 508 รายจากโควิด-19 ในรอบ 24 ชม.ที่ผ่านมา ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมดของรัสเซียอยู่ที่ 42,684 ราย
“ ในช่วง 5 ชม.แรก มีประชาชน 5,000 คนที่ลงชื่อเข้าฉีดวัคซีน ทั้งครู แพทย์ นักสังคมวงเคราะห์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพและชีวิตมากที่สุด” นายกเทศมนตรีเซอร์เก โซบียานินโพสต์บนเว็บไซต์ส่วนตัวเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา
สื่อรายงานจากกรุงมอสโกว่า ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.สำหรับผู้ฉีดวัคซีนแต่ละคน
“ 10 นาทีแรกสำหรับการตรวจร่างกายทั่วไป 15 นาทีต่อมาคือการเตรียมวัคซีนเพราะวัคซีนถูกเก็บในอุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส และอีก 30 นาทีสำหรับการสังเกตอาการ”
โดยผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกต้องกลับมาฉีดเข็มที่ 2 ในอีก 3 สัปดาห์หน้า
“จากข้อมูลของทางการรัสเซีย ผู้ได้รับวัคซีนจะสร้างภูมิคุ้มกันอย่างสมบูรณ์หลังจาก 42 ชม.”
อายุของผู้ฉีดวัคซีนกำจัดไว้ที่ 60 ปี โดยผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ สตรีมีครรภ์ และผู้มีความเจ็บป่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา จะไม่ได้รับวัคซีน
ทั้งนี้ รัสเซียพัฒนาวัคซีนโควิด-19 สองตัว โดย Sputnik V ได้รับการสนับสนุนจาก Russian Direct Investment Fund และอีกตัวพัฒนาโดย Siberia’s Vector Institute โดยวัคซีนทั้งสองตัวยังอยู่ในระหว่างการทดสอบระยะสุดท้าย
นักวิทยาศาสตร์แสดงความกังวลถึงความเร็วในการใช้วัคซีนของรัสเซีย หลังหน่วยงานที่กำกับดูแลอนุมัติและมีการฉีดวัคซีนจำนวนมาก ทั้งที่การทดสอบเต็มรูปแบบของความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนยังไม่สมบูรณ์
“เป็นความจริงที่ว่า วัคซีนได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วและดูจะใช้ฉีดกับคนทั่วไปเร็วขึ้นกว่าเดิม เร็วกว่าในสหราชอาณาจักร” ไซมอน คลาร์ก ผศ.ประจำ University of Reading ให้ความเห็น
“ เพราะมีการทดลองวัคซีนในกลุ่มเล็ก การอ้างประสิทธิภาพที่สูงถึง 95% ในขั้นนี้ อาจเร็วเกินไป” เขาเสริม “ ต้องระลึกว่าพวกเขาไม่ได้บริหารจัดการกับคนที่มีอายุเกิน 60 ปี ซึ่งคนพวกนี้เป็นกลุ่มความเสี่ยงสูงสุด”