สหรัฐฯและจีนเซ็นข้อตกลงการค้า
สหรัฐฯ และจีนได้บรรลุการทำข้อตกลงทางการค้าระดับสูงสุดซึ่งเป็นการเปิดตลาดจีนให้กับตัวแทนจัดอันดับเครดิตและบริษัทบัตรเครดิตของสหรัฐฯ
ภายใต้ข้อตกลงนี้ จีนจะยกเลิกการห้ามนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐฯ และยอมรับการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวของสหรัฐฯ ด้วย
และในทางกลับกัน สินค้าเนื้อไก่ปรุงสุกของจีนจะได้รับการอนุมัติให้เข้าไปจำหน่ายในตลาดสหรัฐฯ และธนาคารของจีนจะสามารถเข้าไปดำเนินการในสหรัฐฯได้เช่นกัน
ทั้งนี้ นายวิลเบอร์ รอส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าวว่า ข้อตกลงทั้งหมดนี้จะช่วยลดจำนวนการได้ดุลการค้าของจีนที่มีต่อสหรัฐฯ ลงภายในสิ้นปี 2561
รัฐมนตรีรอสกล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า สหรัฐฯ เห็นพ้องที่จะปฏิบัติกับสถาบันทางการเงินของจีนแบบเดียวกับธนาคารต่างประเทศอื่นๆ เพื่อเป็นการเปิดกว้างทางธุรกรรมทางการเงินในสหรัฐฯ
“ ชัดเจนว่า ธนาคารของจีน ซึ่งเป็นกลุ่มธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลกต้องการเข้าไปดำเนินงานในตลาดธนาคารในสหรัฐฯ” เขากล่าว
“ ตราบเท่าที่พวกเขาปฏิบัติตามกฎระเบียบปกติได้ พวกเขาก็จะเข้าถึงตลาดสหรัฐฯ ได้”
การทำข้อตกลงทั้งหมดนี้เริ่มจะสร้างผลลัพธ์ที่เห็นเป็นรูปธรรมได้ชัดเจนหลังจากการพูดคุยทางการค้าระหว่างสองประเทศยักษ์ใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้นในเดือนที่แล้ว
เห็นได้ชัดว่าข้อตกลงนี้เป็นสัญญาณว่า ประเธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ปรับเปลี่ยนท่าทีการเผชิญหน้าอย่างขึงขังดุดันกับจีนให้นุ่มนวลลงกว่าที่เคยสัญญาไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์เคยกล่าววิจารณ์จีนอย่างรุนแรงว่า เป็นผู้ควบคุมค่าเงินและตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้า แต่หลังจากเข้ารับตำแหน่ง ผู้นำสหรัฐฯ ก็มีท่าทีอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ เขายังพยายามที่จะเชื่อมโยงการพูดคุยทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีนเข้ากับความกังวลเรื่องการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ โดยหนุนให้ทางปักกิ่งกดดันเปียงยางมากขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการประกาศดีลการค้า นายจูกวงเหยา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวว่า ประเด็นทางเศรษฐกิจจะไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
“ จากความสัมพันธ์ระหว่างประเด็นอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือและแผนเจรจาทางเศรษฐกิจ 100 วันของเรา ผมสามารถบอกพวกคุณตรงๆได้ว่า ทีมเศรษฐกิจของเราจะมุ่งใช้ความพยายามไปที่ประเด็นทางเศรษฐกิจมากกว่า ” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว.