เฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย
ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดมีมติเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ว่า จะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากทางเฟดยังคงกังวลเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ดูจะชะลอตัวลง
คณะกรรมการของเฟดเห็นพ้องที่จะให้มีการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.75 – 1% ตามเดิม โดยอัตรานี้ใช้เป็นแนวทางในการบริหารหนี้ผู้บริโภคที่หลากหลาย เช่น เครดิตการ์ดและเงินกู้ดอกเบี้ยเปลี่ยนแปลงได้
โดยแถลงการณ์ของเฟดมีสัญญาณของความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีตัวเลขการเติบโตเพียง 0.7% ในไตรมาสแรกของปีนี้
อย่างไรก็ตาม เฟดเชื่อว่าการอ่อนแรงของเศรษฐกิจจะไม่คงอยู่นานนัก และไม่ได้ให้ข้อมูลว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงเจตนาที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตแต่อย่างใด
“ จากภาษาของเฟดสื่อว่า มองเห็นและรับรู้ถึงการชะลอตัวและการอ่อนแรงลงของเศรษฐกิจ แต่ยังคงส่งข้อความว่า ยังไม่มากพอที่จะปรับเปลี่ยนไปจากแผนเดิมของเฟด เดือนมิ.ย.จะมีการประชุมเรื่องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก” นายเครก บิช้อป นักกลยุทธ์ตราสารหนี้ที่ RBC Wealth Management กล่าว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เริ่มบริหารประเทศในเดือนม.ค.โดยมีนโยบายที่จะหนุนให้เศรษฐกิจเติบโตสูงสุด โดยทีมบริหารแสดงความหวังว่า สภาจะอนุมัติให้มีการลดภาษีก่อนสิ้นปีนี้ แต่ยังไม่มีการใช้จ่าย
งบประมาณในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้มีความก้าวหน้าเลย และสภาพบว่า ใช้เวลานานหลายปีในการผลักดันโครงการประกันสุขภาพ หรือโอบามาแคร์ที่ไม่ประสบผลสำเร็จ
โดยประธานาธิบดีทรัมป์เชื่อว่า แผนของเขาจะช่วยให้ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ หรือจีดีพี อยู่ที่ 3 – 4%
ทั้งนี้ เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าสุดคือในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอีกครั้งในเดือนมิ.ย.นี้ เทรดเดอร์ในตลาดซื้อขายกองทุนล่วงหน้าให้ความเห็นว่า มีโอกาสถึง 70% ที่จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่มีความคิดแตกแยกเป็นสองฝ่ายว่าเฟดจะปรับดอกเบี้ยขึ้นอีกครั้งในปีนี้
จากแผนการเดิมที่เปิดเผยในเดือนมี.ค. ทางเฟดชี้ว่า จะมีการปรับดอกเบี้ยขึ้นอีก 2 ครั้งในปีนี้ แต่ในตลาดล่วงหน้ามองว่า มีโอกาสไม่มากที่จะปรับขึ้นได้ตามแผน โดยแถลงการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ยังตอกย้ำว่า เฟดจะค่อยๆปรับดอกเบี้ยขึ้น
ในแถลงการณ์ยังชี้ว่า การลงทุนในธุรกิจยังคง ‘มั่นคง’ อันที่จริง ในสัปดาห์ที่แล้ว ตัวเลขจีดีพีในไตรมาสแรกชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังอยู่ในจุดที่สดใส จากการลงทุนที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยที่เติบโตขึ้นด้วยตัวเลข 2 หลัก.