‘ไบเดน’ หวั่นตายเพิ่มอีก หาก ‘ทรัมป์’ ไม่ยอมถ่ายโอนอำนาจ
โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ แถลงเตือนว่า การไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อาจส่งผลกระทบกับความสามารถในการทำงานของรัฐบาลใหม่ของไบเดนในการบริหารจัดการเรื่องวัคซีนโควิด-19
“ จะมีประชาชนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก หากเราไม่ร่วมมือกัน” ไบเดนกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ในรัฐเดลาแวร์ ในระหว่างการแถลงข่าวหลังจากมีบรรดาผู้นำแรงงานและธุรกิจเข้าพบ และเขามีการกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับเศรษฐกิจ
ไบเดนแสดงความเห็นเช่นนั้นเนื่องจากทรัมป์ปฏิเสธที่จะยอมรับความจริงว่า เขาพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยจนถึงตอนนี้ ทีมทำงานบริหารของทรัมป์ยังปฏิเสธที่จะเริ่มดำเนินการถ่ายโอนอำนาจในช่วงเปลี่ยนผ่านการทำงาน ซึ่งจะทำให้ทีมทำงานของไบเดนได้รับงบประมาณ ได้รับข้อมูลข่าวกรอง และสามารถเข้าถึงการทำงานในหน่วยงานรัฐบาลกลางได้
โดยไบเดนระบุว่า การให้ความร่วมมือมีความสำคัญมาก “ในตอนนี้ หรือเร็วที่สุดเท่าที่เราทำได้” และยังระบุว่า “ จะทำให้ง่ายขึ้นมาก หากท่านประธานาธิบดีให้ความร่วมมือ”
“ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านประธานาธิบดีจะตระหนักถึงเรื่องนี้ก่อนจะถึงวันที่ 20 ม.ค.” เขาระบุถึงวันทำพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่
ไบเดนกล่าววิจารณ์ทรัมป์ที่ล้มเหลวในการทำงานกับสภาเพื่อเจรจาหามาตรการช่วยเหลือเยียวยาธุรกิจและชาวอเมริกันที่ตกงานในช่วงเวลาที่มีตัวเลขการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอีกก่อนเข้าฤดูหนาว
“ ความคิดของทรัมป์ก็มีแค่การเล่นกอล์ฟ และไม่ทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกเหนือจากความเข้าใจของผม” ไบเดนกล่าว
ถ้อยแถลงของไบเดนมีขึ้นในวันเดียวกันกับการประกาศความสำเร็จของวัคซีนโควิด-19 จากบริษัทโมเดอร์นาที่ระบุว่า วัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพสูงถึง 94.5% หนึ่งสัปดาห์หลังจากบริษัทไฟเซอร์แถลงว่า วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทมีประสิทธิภาพ 90%
ไบเดนกล่าวชื่นชมบรรดาผู้ว่าการรัฐจากพรรครีพับลิกันที่กำหนดให้พลเมืองในรัฐสวมหน้ากากอนามัย โดยเขาระบุว่า การกำหนดให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย ไม่ใช่การเล่นเกมการเมือง
นอกจากนี้ เขายังได้เรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎรที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก หรือวุฒิสภาที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากผ่านร่างกฎหมายมาตรการช่วยเหลือเยียวยา ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากบรรดาส.ส.แล้ว แต่ส.ว.กลับปฏิเสธที่จะให้ผ่าน
“เราสามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันที และจำเป็นต้องทำอย่างเร็ว” ไบเดนกล่าว
ที่ผ่านมา ทรัมป์มักจะแบ่งแยกไม่ยอมให้ความช่วยเหลือด้านงบประมาณกับรัฐและเมืองที่สนับสนุนพรรคเดโมแครต แต่ไบเดนระบุว่า “เราล้วนเป็นชาวอเมริกัน” และจำเป็นต้องมีการประสานความร่วมมือกันโดยไม่แบ่งฝ่าย
ไบเดนขับเคลื่อนแผนเร่งการลงทุนเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจสหรัฐฯให้แข็งแกร่ง และเพื่อสร้างงานหลายล้านอัตรา
ให้สหภาพแรงงาน โดยเขายังระบุว่า เขาอยากให้มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 452.70 บาทต่อชั่วโมงทั่วประเทศ
“หนทางข้างหน้ายังอีกไกล มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่และดิฉันจะเร่งดำเนินการ เราไม่อยากเสียเวลาอีก ” คามาลา แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่กล่าว