สหรัฐฯติดเชื้อโควิด-19 ทะลุ 11 ล้านคน
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมจากโควิด-19 ในสหรัฐฯพุ่งทะลุ 11 ล้านราย เนื่องจากมีการแพร่ระบาดในระลอกสามทั่วประเทศ จากข้อมูลของรอยเตอร์
ข้อมูลของรอยเตอร์ชี้ให้เห็นว่า อัตราการติดเชื้อในสหรัฐฯพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วขึ้น โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านรายจากเมื่อ 8 วันก่อนที่มีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 10 ล้านราย ทำให้เป็นอัตราการติดเชื้อเร็วที่สุดในสหรัฐฯนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดในประเทศ
เปรียบเทียบกับช่วงเวลา 10 วันที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจาก 9 ล้านรายเป็น 10 ล้านราย และก่อนหน้านั้น ใช้เวลา 16 วันที่ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 9 ล้านรายจากเดิม 8 ล้านราย
สหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากที่สุดในโลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 10 ล้านรายไปเมื่อวันที่ 8 พ.ย. และรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันเกิน 100,000 รายต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 11 แล้ว
ค่าเฉลี่ยใน 7 วันล่าสุดชี้ให้เห็นว่า สหรัฐฯรายงานผู้ติดเชื้อรายวันกว่า 144,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตรายวัน 1,120 ราย สูงที่สุดกว่าทุกประเทศในโลก
รัฐเท็กซัสและแคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงที่สุดในสหรัฐฯ เมื่อรวมตัวเลขจากสองรัฐเข้าด้วยกันจะมีผู้ติดเชื้อทั้งหมดประมาณ 2.1 ล้านราย หรือคิดเป็นประมาณ 19% จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดนับตั้งแต่เกิดการระบาด จากการวิเคราะห์ของรอยเตอร์
โดยยอดผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือสูงถึง 69,000 รายในวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ประธานที่ปรึกษาของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่โจ ไบเดนย้ำถึงความจำเป็นในการควบคุมการแพร่ระบาด โดยเตือนว่าระบบสาธารณสุขท้องถิ่นกำลังถึงจุดอิ่มตัว
ภูมิภาคมิดเวสต์ยังคงเป็นพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากไวรัสมากที่สุดเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร โดยรัฐนอร์ธดาโกตา เซาธ์ดาโกตา วิสคอนซิน ไอโอวา และเนบราสกา เป็น 5 รัฐที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากที่สุด
รัฐอิลลินอยส์ ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดแห่งใหม่ในภูมิภาคและทั่วประเทศ ได้รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่สูงทุบสถิติถึง 15,433 รายในวันที่ 13 พ.ย. สูงที่สุดเมื่อเทียบกับรัฐอื่นในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมา สูงกว่าสถิติเดิมก่อนหน้านี้ของรัฐฟลอริดาที่มีผู้ติดเชื้อรายวัน 15,300 ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
หลายรัฐในสัปดาห์นี้ได้ยกระดับมาตรการคุมเข้มเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสทั่วประเทศ โดยรัฐนอร์ธดาโกตากลายเป็นรัฐล่าสุดที่กำหนดให้สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะ ต่อจากอีก 39 รัฐในเดือนนี้ที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุด
บรรดาผู้ว่าการรัฐขอให้ประชาชนอยู่บ้านให้มากที่สุด รวมทั้งผู้ว่าการรัฐเนวาดา สตีฟ ซีโซแลค ซึ่งระบุเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ว่า เขากลายเป็นผู้ว่าการรัฐคนที่ 4 ที่ติดเชื้อโควิด-19
ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมในสหรัฐฯคิดเป็นประมาณ 20% ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตคิดเป็น 19% ของผู้เสียชีวิตทั่วโลกจากโควิด-19 คือ 1.31 ล้านราย จากข้อมูลของรอยเตอร์