สหรัฐฯติดเชื้อใหม่รายวันทะลุ 1.5 แสนราย

สหรัฐฯรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งสูงทุบสถิติอีกครั้งในวันเดียว เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงยิ่งขึ้นและสร้างภาระหนักให้กับโรงพยาบาล
โดยเมื่อวันที่ 12 พ.ย. สหรัฐฯรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่กว่า 153,400 ราย จากข้อมูลที่รวบรวมโดยมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส ทำสถิติสูงสุดสามวันต่อเนื่อง และหนุนให้ค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อรายใหม่ของสหรัฐฯในรอบ 7 วันสูงกว่า 131,400 ราย เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้วกว่า 32% จากการวิเคราะห์ของสื่อ CNBC
ไม่เพียงแค่จำนวนผู้ติดเชื้อเท่านั้น แต่ตัวเลขผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโควิด-19 ในโรงพยาบาล ก็สูงเกิน 67,000 รายทั่วประเทศ และตัวเลขผู้เสียชีวิตในแต่ละวันก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ดร.แอนโธนี ฟาวซี ผอ.สถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งสหรัฐฯ ระบุว่า มีหลายปัจจัยที่เพิ่มขึ้นในช่วงการแพร่ระบาด รวมทั้งประชาชนที่เหนื่อยล้ากับการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันของสาธารณสุข โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า ที่ชาวอเมริกันเดินทางไปเยียมครอบครัวและเพื่อน ที่อาจทำให้สถานการณ์ลุกลามยิ่งขึ้น
ดร.ฟาวซีขอให้ชาวอเมริกันยังคงสวมหน้ากากอนามัย มีการเว้นระยะห่างทางสังคม ล้างมือบ่อยๆ และปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
“หากเราปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขง่ายๆเท่านี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อก็จะค่อยๆลดระดับลง” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ “อย่าไปหวังพึ่งวัคซีน เราสามารถดูแลตัวเองได้ ”
ดร.ฟาวซีเสริมว่า “เราจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อมากขึ้นในชุมชน” เพื่อระบุตัวตนผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการและสามารถแพร่เชื้อได้ มีการตรวจหาเชื้อมากขึ้นทั่วประเทศ แต่การติดเชื้อก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน แต่นักระบาดวิทยาระบุว่า จำเป็นต้องมีการตรวจหาเชื้อมากขึ้น
ขณะที่บางคน รวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า ยิ่งตรวจหาเชื้อมาก ก็ยิ่งมีตัวเลขผู้ติดเชื้อมากขึ้น ค่าเฉลี่ย
การตรวจหาเชื้อใหม่ในรอบ 7 วันเมื่อวันที่ 12 พ.ย.สูงกว่า 1.4 ล้านราย เพิ่มขึ้นประมาณ 8% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน จากการวิเคราะห์ข้อมูลของสื่อ
อัตราผู้ที่มีผลตรวจเป็นบวกก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน นักระบาดวิทยาระบุว่า เปอร์เซนต์ของผู้ที่มีผลตรวจเป็นบวกช่วยเน้นย้ำว่าการระบาดกำลังขยายตัว และในแต่ละพื้นที่มีการตรวจหาเชื้อเพียงพอหรือไม่ ในสหรัฐฯ ค่าเฉลี่ยของผู้ที่มีผลตรวจเป็นบวก เพิ่มขึ้นเป็น 9.1% จากเดิม 7.2% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อ้างอิงจากข้อมูลของมหาวิทยาลัยฮอปกินส
ในหลายพื้นที่ โรงพยาบาลกำลังรับภาระหนัก ดร.อลัน แคปแลน ซีอีโอของ UW Health ที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ระบุว่า ระบบโรงพยาบาลกำลังรับภาระหนักทั้งพื้นที่ชนบทและในเขตเมือง
“เราขาดแคลนเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา เพราะพวกเขาเองก็ติดโควิด หรือไม่ก็มีอาการเจ็บป่วยอื่นๆ และเราจำเป็นต้องกำจัดโควิดก่อนที่จะให้พวกเขากลับมาทำงาน ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่เกินจำนวนผู้ป่วยเลย”