เฟซบุ๊กพัฒนาเทคโนโลยีพลังสมอง
โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ของโลกแถลงว่า กำลังศึกษาค้นคว้าอย่างหนักด้านเทคโนโลยีเพื่อให้เราสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์ได้โดยตรงจากสมองของเรา
โดยบริษัทกำลังพัฒนาซอฟท์แวร์การพูดไร้เสียง ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนพิมพ์ตัวอักษรได้ในอัตรา100 คำต่อนาที อ้างอิงจากถ้อยแถลงของเฟซบุ๊ก
โครงการนี้ยังอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้น ซึ่งต้องการเทคโนโลยีใหม่เพื่อสืบค้นหาคลื่นสมอง โดยไม่ต้องมีการผ่าตัดที่รุกล้ำสมอง
“ เราไม่ได้พูดถึงการถอดรหัสความคิดแบบสุ่มเลือกของคุณ” น.ส.เรจินา ดูแกน จากเฟซบุ๊กย้ำ
“ คุณมีความคิดมากมาย คุณเลือกที่จะแชร์บางส่วน เรากำลังพูดถึงการถอดรหัสคำเหล่านั้น การสอดประสานการพูดแบบเงียบเชียบ ไม่มีเสียง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในสปีดและความยืดหยุ่นของเสียง”
น.ส.ดูแกนเป็นผู้บริหารบริษัท Building 8 ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับแล็บวิจัยฮาร์ดแวร์ โดยบริษัทแถลงว่า มีความตั้งใจที่จะสร้างทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย และรับนักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการมากกว่า 60 คนเข้าร่วมทีมเพื่อทำงานในโครงการ
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กระบุในเฟซบุ๊กเพของเขาว่า “ สมองของเราสร้างข้อมูลเพียงพอที่จะกลายเป็นภาพยนตร์ 4D ได้ทุกๆวินาที ”
“ ปัญหาคือ หนทางที่ดีที่สุดที่เรามีเพื่อให้ได้ข้อมูลออกมาในโลกนี้คือ การพูด ซึ่งสามารถถ่ายทอดจำนวนข้อมูลที่เท่ากันซึ่งเท่ากับโมเด็มในยุคเมื่อ 30 ปีก่อนเรากำลังทำงานบนระบบที่จะทำให้เราพิมพ์ข้อความได้โดยตรงจากสมองของคุณ ซึ่งมีสปีดความเร็วกว่าที่คุณพิมพ์บนโทรศัพท์มือถือทุกวันนี้ถึง 5 เท่า ในที่สุดแล้ว เราต้องการที่จะเข้าไปในเทคโนโลยีที่สามารถผลิตได้ในสเกลระดับนั้น แม้แต่คำง่ายๆอย่าง ใช่ หรือ ไม่ใช่ ก็จะช่วยให้ทำสิ่งง่ายๆ อย่างเทคโนโลยีผสมผสานโลกเสมือนให้เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นเทคโนโลยีกำลังจะมีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นก่อนที่เราจะสามารถแชร์ความคิดที่แท้จริง หรือความรู้สึก แต่นี่ยังเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น”
ไอเดียอื่นๆ ยังลงลึกในรายละเอียดที่การประชุมนักพัฒนาของบริษัทในซาน โฮเซ รวมถึงงานที่ให้ผู้คนสามารถได้ยินผ่านผิวหนัง โดยระบบ ที่เปรียบเทียบได้กับ Braille ใช้ความดันชี้บนผิวหนังเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยี
“ วันหนึ่ง ไม่นานจากนี้ อาจเป็นไปได้สำหรับดิฉันที่จะคิดเป็นภาษาจีน และคุณรู้สึกได้ทันทีเป็นภาษาสเปน” น.ส.ดูแกนกล่าว
“ เราต้องการเซ็นเซอร์ใหม่ที่จะไม่รุกล้ำการทำงานของสมอง ซึ่งสามารถวัดกิจกรรมที่เร็วหลายร้อยเท่าต่อวินาที จากโลเคชั่นที่ชัดเจนเป็นหน่วยมิลลิเมตรและไม่มีความผิดเพี้ยนของสัญญาณ ซึ่งในปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีสร้างภาพที่ไม่ทำลายสมองที่สามารถทำได้เช่นนี้ ” เธอเสริม.