ฝรั่งเศส/เยอรมนีล็อกดาวน์รอบใหม่
เบอร์ลิน : เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลแห่งเยอรมนีประกาศคำสั่งให้ทั้งสองประเทศกลับเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์อีกรอบ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกสองที่ยังพุ่งอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยุโรปมีความเสี่ยงสูงก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับเข้าสู่แดนลบขานรับข่าวที่สองประเทศมหาอำนาจประกาศมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดเศรษฐกิจทั่วโลกในปีนี้ให้จมดิ่งเข้าสู่ภาะถดถอยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายชั่วอายุคน
“ ไวรัสกำลังแพร่ระบาดด้วยความเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ในแง่ร้ายก่อนหน้านี้” มาครงระบุในการแถลงทางโทรทัศน์ “ เช่นเดียวกับประเทศเพื่อนบ้านของเรา เรากำลังจมดิ่งลงจากการแพร่ระบาดของไวรัสที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วฉับพลัน”
“ เราล้วนอยู่ในสถานะเดียวกัน การระบาดระลอกสองซึ่งเราทราบว่าจะรุนแรงขึ้น มีการเสียชีวิตมากขึ้นกว่าครั้งแรก ผมตัดสินใจว่าเราจำเป็นต้องกลับไปสู่มาตรการล็อกดาวน์ซึ่งหยุดไวรัสได้”
ถายใต้มาตรการใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 ต.ค.ประชาชนต้องอยู่บ้าน ออกนอกบ้านได้เฉพาะการไปซื้อของ ไปพบแพทย์ หรือออกกำลังกายได้ 1 ชม.ต่อวัน สามารถไปทำงานที่ออฟฟิศหากงานนั้นไม่สามารถทำที่บ้านได้ แต่โรงเรียนยังคงเปิดทำการเรียนการสอนอยู่
ในยามวิกาล ผู้ที่ออกจากบ้านในฝรั่งเศสจะต้องถือเอกสารรับรองให้สามารถออกข้างนอกได้ ซึ่งตำรวจจะเป็นผู้ตรวจสอบ
ขณะที่เยอรมนีจะปิดบาร์ ร้านอาหารและโรงภาพยนตร์ในวันที่ 2 – 30 พ.ย. ภายใต้มาตรการที่ผ่านความเห็นชอบจากนายกฯแมร์เคิล และผู้นำรัฐบาลแคว้น โรงเรียนจะยังคงเปิดอยู่ และร้านค้าเปิดให้บริการได้แต่จำกัดจำนวนลูกค้า
“ เราจำเป็นต้องแก้ปัญหาตอนนี้” แมร์เคิลกล่าว “ ระบบสาธารณสุขของเรายังสามารถรับมือกับความท้าทายนี้ได้ในปัจจุบัน แต่อัตราความเร็วของการติดเชื้อจะแตะขีดจำกัดของศักยภาพของเราภายในไม่กี่สัปดาห์”
โอลาฟ โชลซ์ รมว.คลังของเยอรมนีโพสต์บนทวิตเตอร์ “ เดือนพ.ย.จะเป็นเดือนของความเป็นจริง จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นบีบให้เราต้องมีมาตรการรับมือที่เข้มงวดขึ้นเพื่อยุติการระบาดระลอกสอง”
ฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อเกิน 36,000 รายต่อวัน ขณะที่เยอรมนี ซึ่งได้รับผลกระทบน้อยกว่าประเทศเพื่อบ้านในช่วงต้นปีนี้ กลับมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ตลาดหุ้นยุโรปปิดในระดับต่ำสุด ตั้งแต่เดือนพ.ค.เป็นต้นมา ขณะที่ในสหรัฐฯ ดัชนี S&P 500 ปรับลดลง 3%
ในส่วนของความพยายามที่จะรองรับผลกระทบทางเศรษฐกิจ เยอรมนีจัดสรรงบประมาณ 10,000 ล้านยูโร หรือราว
371,370 ล้านบาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยาบางส่วนให้กับบริษัทที่ยอดขายหายไป ขณะที่อิตาลีจัดสรรงบประมาณไว้ 5,000 ล้านยูโร หรือราว 183,525 ล้านบาท
ข้อมูลล่าสุดขององค์การอนามัยโลกเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ระบุว่า ยุโรปมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1.3 ล้านรายในช่วง 7 วันที่ผ่านมา เกือบครึ่งของตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกคือ 2.9 ล้านราย โดยมีผู้เสียชีวิตกว่า 11,700 ราย คิดเป็นอัตราส่วนการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นถึง 37% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา