เมลเบิร์นยกเลิกล็อกดาวน์
เมลเบิร์น : เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ร้านค้า ร้านอาหารและโรงแรมเปิดให้บริการอีกครั้งในเมืองเมลเบิร์น หลังมีมาตรการล็อกดาวน์นาน 4 เดือน บรรดาลูกค้ามีความสุขที่ได้กินอาหารกลางแสงแดดของฤดูใบไม้ผลิ และเจ้าของร้านหวังถึงยอดขายครั้งใหญ่เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปช่วงล็อกดาวน์
รัฐวิกตอเรียและนครเมลเบิร์น ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐ และมีประชากรอาศัยอยู่มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ เคยเป็นจุดศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่มาตรการที่เข้มงวดช่วยยุติการระบาดระลอกสอง โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียงสองรายและมีผู้เสียชีวิตสองรายชั่วข้ามคืน
“ แรงงานประมาณ 180,000 คนสามารถกลับไปทำงานที่สถานที่ทำงานได้ นี่เป็นความสำเร็จที่ประชาชนในรัฐวิกตอเรียควรภูมิใจ” แดเนียล แอนดรูว์ส มุขมนตรีของรัฐกล่าวในการแถลงข่าว
“เราล้วนต้องปฏิบัติตามกฎ เพื่อปกป้องเจ้าหน้าที่ ปกป้องลูกค้า เพื่อปกป้องสิ่งที่เปราะบางที่เราสร้างขึ้น เราจึงจะได้ฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่เราตั้งตารอ กับคนที่เราคิดถึงที่สุด”
ตอนนี้ในหลายพื้นที่ของเมืองเมลเบิร์น บรรดาลูกค้าเลือกนั่งที่โต๊ะนอกร้าน ดื่มกาแฟ หรือรับประทานอาหารเช้าและกลางวันอย่างมีความสุข
“ เมลเบิร์นยังอากาศแจ่มใส ผมตื่นเต้นที่หลายๆ อย่างจะเปิดทำการอีกครั้ง” เบน อิสราเอลสัน นักศึกษาวัย 22 ปี ที่นังดื่มกาแฟกับเพื่อนๆมหาวิทยาลัย
ร้านทำผมและร้านอาหารยังคงปฏิบัติตามข้อกำหนดในการรักษาระยะห่างอย่างเคร่งครัด ที่จำกัดคนในสถานที่ในร่มอยู่ที่ 10 คน และกลางแจ้ง 50 คน ซึ่งไม่เอื้อให้บางธุรกิจเปิดทำการ ขณะที่หลายธุรกิจปิดถาวร
มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม การตรวจคัดกรอง และการสอบสวนโรคหาเส้นทางการติดเชื้อทำให้ออสเตรเลียประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสระลอกใหม่ ช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อที่เคยพุ่งขึ้นไปกว่า 700 รายต่อวันในเดือนก.ค. แม้ประเทศพัฒนาแล้วประเทศอื่นๆจะกำลังยากลำบากในการต่อสู้กับการติดเชื้อที่พุ่งสูงในการระบาดระลอกสาม
มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8 รายในรัฐนิวเซาธ์เวลส์ที่มีประชากรอาศัยมากที่สุดเมื่อวันที่ 28 ต.ค. โดย 7 รายเป็นนักเดินทางจากต่างประเทศที่กักตัวในโรงแรมและมี 1 รายที่เป็นคนในประเทศ ขณะที่รัฐควีนสแลนด์มีผู้ติดเชื้อ 2 ราย ทำให้ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อสะสมจากโควิด-19 อยู่ที่ 27,552 ราย
จากโพลของรอยเตอร์ในสัปดาห์นี้ นอกจากความสำเร็จในการสกัดไวรัส ยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเงิน ที่ช่วยให้เศรษฐกิจออสเตรเลียหลุดพ้นออกจากภาวะถดถอยครั้งแรกในรอบกว่าสามทศวรรษ ซึ่งส่งผลระยะสั้นๆในปีนี้ แม้จำนวนการอพยพเข้าเมืองต่ำ และอัตราการว่างงานสูงจะทำให้การฟื้นตัวไม่คงที่สม่ำเสมอก็ตาม