สเปนประกาศภาวะฉุกเฉินรอบใหม่
มาดริด : เมื่อวันที่ 25 ต.ค. นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซประกาศภาวะฉุกเฉินรอบใหม่ในสเปนเพื่อ ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงการประกาศมาตรการเคอร์ฟิวในเวลากลางคืน และห้ามเดินทางข้ามแคว้น
โดยมีการบังคับใช้มาตรการคุมเข้มตั้งแต่คืนวันที่ 25 ต.ค. และกำหนดให้ทุกแคว้น ยกเว้นเกาะคานารีส์ ให้มีมาตรการเคอร์ฟิว และจำกัดจำนวนการรวมตัวกันของประชาชนไม่เกิน 6 คน
“เราอยู่ในสถานการณ์ร้ายแรง เป็นวิกฤตสาธารณสุขที่ร้ายแรงที่สุดในศตวรรษที่ผ่านมา” นายกฯซานเชซระบุในการแถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี
แคว้นกาตาลุญญาเป็นหนึ่งในภูมิภาคแรกๆ ที่บังคับใช้มาตรการรอบใหม่ในวันที่ 25 ต.ค. ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ 22.00 น. และสถานประกอบการที่ให้บริการประชาชนจะต้องปิดในเวลา 21.00 น.
กำลังตำรวจเข้าประจำการในเมืองก่อนที่มาตรการเคอร์ฟิวจะมีผลบังคับใช้ และท้องถิ่นต้องปฏิบัติตามกฎใหม่
สเปนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดที่สุดอย่างรวดเร็วในระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 ช่วงต้นปี และผ่อนคลายมาตรการลงในช่วงฤดูร้อน
แต่ก็เหมือนกับประเทศอื่นๆในยุโรปในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้ คือมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกระลอก และตอนนี้ กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในยุโรปตะวันตก โดยสเปนมียอดผู้ติดเชื้อสะสมจากโควิด-19 อยู่ที่ 1,046,132 รายในวันที่ 23 ต.ค. ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเกือบ 35,000 ราย
ประกาศภาวะฉุกเฉินจำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาเพื่อให้มีผลบังคับใช้นานเกิน 15 วัน โดยซานเชซขอให้สภาอนุมัติเพื่อขยายเวลาไปจนถึง 9 พ.ค.
จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในทุกแคว้นกลายเป็นกระแสเรียกร้องที่ทำให้รัฐบาลต้องประกาศมาตรการคุมเข้ม
ในพื้นที่กรุงมาดริดได้มีการจำกัดจำนวนคนที่รวมตัวกันอยู่ในบ้านไม่เกิน 6 คน รวมถึงห้ามการรวมตัวกันของหลายครัวเรือนในช่วงกลางคืน
รองประธานาธิบดีโรมัน โรดริเกซ แห่งเกาะคานารีส์ ทวีตข้อความว่า เขาพอใจที่เกาะท่องเที่ยวแห่งนี้ได้รับการยกเว้น ไม่ถูกบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว แต่ขอให้ประชาชนระวังตัวเอง อย่าให้การ์ดตก โดยทางเกาะหวังที่จะช่วยฟื้นฟูฤดูท่องเที่ยว หลังจากสหราชอาณาจักรและเยอรมนีตัดสินใจว่าไม่มีความเสี่ยงในการเดินทางมาที่นี่
ถือเป็นกรอบกฎหมายที่จะบังคับใช้ตามระบบการเตือนภัยความเสี่ยงที่มีการจัดระดับเมืองต่างๆ เหมือนกับที่มีการประกาศใช้แล้วในหลายประเทศ เช่น เยอรมนีและฝรั่งเศส
อาจมีคำสั่งห้ามการเดินทางระหว่างแคว้นตามระดับความเสี่ยง ยกเว้นหากมีเหตุผลเพียงพอ เช่น การเดินทางเพื่อไปทำงาน และยังมีคำสั่งห้ามเดินทางระหว่างแคว้นที่มีการล็อกดาวน์ในท้องถิ่นด้วย
อย่างไรก็ตาม แคว้นส่วนใหญ่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงเกินเกณฑ์ที่ถูกจัดระดับว่ามีความเสี่ยงสูงสุด