อาสาสมัครทดสอบวัคซีนโควิด-19 ของ AstraZeneca ดับ
เมื่อวันที่ 21 ต.ค. หุ้นของบริษัท AstraZeneca ปรับลดลงในแดนลบหลังจาก Anvisa หน่วยงานสาธารณสุขของบราซิลระบุว่า มีอาสาสมัครรายหนึ่งที่เข้าร่วมในการทดสอบวัคซีนโควิด-19 เสียชีวิต
The Federal University of Sao Paulo ซึ่งช่วยประสานความร่วมมือในการทดสอบวัคซีนขั้นตอนสุดท้ายในบราซิล ระบุว่าอาสาสมัครรายนี้เป็นชาวบราซิล จากรายงานของสื่อ
หุ้นของบริษัท AstraZeneca ซึ่งมีความก้าวหน้าในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 อยู่ในลำดับต้นๆ ปรับลดลงทันทีหลังข่าวนี้แพร่สะพัด โดยหุ้นปรับลดลงประมาณ 1% ในช่วงการซื้อขายช่วงบ่าย
โฆษกของ AstraZeneca ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับอาสาสมัครรายนี้ โดยระบุว่า “เป็นความลับทางการแพทย์และข้อกำหนดของการทดสอบทางคลินิก”
โดยโฆษกเสริมว่า “ผู้ตรวจสอบกำลังดำเนินการประเมินกรณีสำคัญทางการแพทย์นี้” และ “การประเมินไม่ได้นำไปสู่ความกังวลใดๆเกี่ยวกับการทดสอบที่ยังดำเนินอยู่”
ในแถลงการณ์ โฆษกจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาวัคซีนร่วมกับ AstraZeneca ระบุว่า “ไม่มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทดสอบทางคลินิก” หลังมีการประเมินกรณีอาสาสมัครในบราซิล
“ นอกเหนือจากหน่วยงานที่กำกับดูแลของบราซิล มีคำแนะนำจากการประเมินให้ดำเนินการทดสอบต่อไป” อเล็กซานเดอร์ บักซ์ตัน โฆษกของออกซ์ฟอร์ดระบุ
ทางออกซ์ฟอร์ดไม่ได้ให้รายละเอียดเรื่องการเสียชีวิตของอาสาสมัคร และไม่มีความชัดเจนว่าอาสาสมัครได้รับวัคซีน ปัจจุบัน บราซิลมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ ด้วยตัวเลขอย่างน้อย 115,914 ราย จากข้อมูลที่รวบรวมโดยมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับสถานการณ์กล่าวกับสื่อว่า การทดสอบอาจถูกระงับ หากอาสาสมัครผู้นี้อยู่ในกลุ่มที่ได้รับวัคซีน
ข่าวนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่องค์การอาหารและยา (FDA) ชะลอการทดสอบวัคซีนทางคลินิกระยะสุดท้ายจาก AstraZeneca ในสหรัฐฯ ซึ่งหมายความว่าบริษัทไม่สามารถจัดการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้ผู้เข้าร่วมทดสอบ
บริษัทประกาศเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ว่า ได้ชะลอการทดสอบวัคซีนจากอาการเจ็บป่วยที่อธิบายไม่ได้ของผู้ป่วยในสหราชอาณาจักร เชื่อว่าผู้ป่วยมีอาการอักเสบเฉียบพลันที่ไขสันหลัง ที่เรียกกันว่า โรคไขสันหลังอักเสบเฉียบพลัน และกลับมาทดสอบอีกครั้งในสหราชอาณาจักรและประเทศอื่นๆ
คาดการณ์ว่า จะกลับมาทดสอบอีกครั้งในสหรัฐฯ สัปดาห์นี้ หลังจากผ่านการพิจารณาทบทวนของ FDA แล้ว จากรายงานของสื่อรอยเตอร์ที่อ้างอิง 4 แหล่งข่าวนิรนาม
AstraZeneca เป็น 1 ใน 4 ของบริษัทผู้ผลิตยาที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ให้มีการทดสอบในขั้นตอนสุดท้ายของการพัฒนาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ โดยวัคซีนของ AstraZeneca ที่มีชื่อเรียกว่า AZD1222 ใช้สารพันธุกรรมจากไวรัสโคโรนากับไวรัสอะดีโนที่ปรับปรุงแล้ว
ในเดือนก.ค. บริษัทตีพิมพ์ข้อมูลที่แสดงว่า วัคซีนของบริษัทกระตุ้นภูมิคุ้มกันทำงานในการทดสอบขั้นต้น
จากข้อมูลของนักวิจัยในเวลานั้นระบุว่า อาสาสมัครไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง มีเพียงอาการเพลียและปวดศีรษะ ซึ่งเป็นอาการโดยทั่วไป และผลข้างเคียงอื่นๆคือ เจ็บตรงบริเวณที่ฉีดวัคซีน ปวดกล้ามเนื้อ หนาวสั่นและมีไข้