เหตุระเบิดรถไฟใต้ดินรัสเซีย
มีผู้เสียชีวิต 12 รายจากเหตุระเบิดรุนแรงระหว่างสองสถานีรถไฟใต้ดินที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในประเทศรัสเซีย
ผู้อำนวยการคณะกรรมการต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติของรัสเซียรายงานว่า มีเหตุระเบิดในรถไฟใต้ดินระหว่างสถานี Sennaya Ploshchad และ Tekhnologichesky
โดยคณะกรรมการรายงานว่า พบอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดเหตุระเบิดและเฝ้าระวังความปลอดภัยที่อีกสถานีหนึ่งคือ Ploshchad Vosstaniya
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินกล่าวว่า ต้องมีการสืบสวนหาสาเหตุของเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงการก่อการร้ายด้วย ดิมิทรี เพสคอฟโฆษกของผู้นำรัสเซียรายงานว่า เขายังอยู่ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อเช้าวันที่ 3 เม.ย. แต่ตอนนี้เขาอยู่นอกเมืองแล้ว
“ ผมได้สั่งการไปที่หัวหน้าหน่วยบริการพิเศษของเราแล้ว พวกเขากำลังสืบสวนหาสาเหตุ” ประธานาธิบดีปูตินกล่าวในการประชุมกับประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโกแห่งเบลารุส
มีการปิดโครงข่ายรถไฟใต้ดินทั้งหมดของเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และเจ้าหน้าที่รถไฟใต้ดินแห่งมอสโกกล่าวว่า จะดำเนินการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด
ภาพข่าวแสดงให้เห็นผู้ได้รับบาดเจ็บที่นอนเลือดไหลบนพื้นชานชาลา บางคนได้รับการปฐมพยาบาลจากหน่วยฉุกเฉินและผู้โดยสารคนอื่นๆ หลายคนวิ่งออกมาจากสถานีที่มีควันปกคลุมไปทั่ว บางคนกรีดร้องตะโกน และหลายคนเอามือปิดหน้าร้องไห้ด้วยความตกใจ
เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินของเมืองกล่าวว่า มีเสียงระเบิดดัง 2 ครั้งแต่แหล่งข่าวในหน่วยกล่าวในเวลาต่อมาว่า มีระเบิดเพียงครั้งเดียวและเกิดเหตุในอุโมงค์ระหว่างสองสถานี โดยเหตุระเบิดเกิดในเวลา 14.40 น. ก่อนเวลาเร่งด่วนในช่วงเย็น
ทั้งนี้ ระบบรถไฟใต้ดินของเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเป็นระบบที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดเป็นอันดับที่ 19 ของโลก ด้วยจำนวนผู้โดยสารมากกว่า 2 ล้านคนต่อวัน โดยเมืองนี้เคยประสบกับเหตุร้ายเช่นนี้มาก่อน
นอกจากนี้ ศูนย์กลางการคมนาคมในรัสเซียก็เคยถูกโจมตี โดยในปี 2553 มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 รายจากระเบิดฆ่าตัวตายซ้อนกันสองรายในรถไฟใต้ดินที่กรุงมอสโก
ในปี 2552 เกิดเหตุระเบิดบนรถไฟความเร็วสูงที่เดินทางระหว่าง กรุงมอสโกและเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก คร่าชีวิตผู้เคราะห์ร้ายไปถึง 27 รายและบาดเจ็บอีก 130 ราย โดยกลุ่มก่อการร้ายจากรัฐอิสลามอ้างความรับผิดชอบในทั้งสองเหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้.