โตชิบาขาดทุนหนักหุ้นดิ่งร่วง
หุ้นของบริษัทโตชิบาดิ่งร่วงถึง 16% หลังรายงานว่าบริษัทกำลังประสบปัญหาการขาดทุนครั้งใหญ่ในธุรกิจพลังงานนิวเคลียร์ในสหรัฐฯ
มีความตื่นตระหนกว่า บริษัทโตชิบาอาจประสบกับการขาดทุนมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ถึง 700,000 ล้านเยนและมีรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าบริษัทกำลังเร่งเจรจาขอความช่วยเหลือจากธนาคารเพื่อการพัฒนาของญี่ปุ่น (DBJ) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของรัฐบาล
ทางบริษัทโตชิบารายงานว่า ตัวเลขมูลค่าที่ลดลงยังไม่นิ่งและปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับการเข้ามาให้ความช่วยเหลือของ DBJ
โตชิบาซึ่งมีธุรกิจหลากหลายประเภทตั้งแต่คอมพิวเตอร์แลปท็อปจนถึงโรงไฟฟ้าพลังน้ำต้องตกอยู่ในภาวะวิกฤตตั้งแต่ปลายปี 2559 เนื่องจากใช้เงินทุนไปมากกับโครงการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในสหรัฐฯ โดยโตชิบาซึ่งเป็นเจ้าของ Westinghouse ในสหรัฐฯ จ่ายเงินประมาณ 229 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการซื้อ Stone & Webster ซึ่งเป็นบริษัทผลิตนิวเคลียร์ย่อยของ Chicago Bridge & Iron
แต่เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ทางโตชิบายอมรับว่า กำลังประสบกับปัญหาการขาดทุนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และยังไม่สามารถลงบัญชีรายงานยอดรายได้ โดยได้ชี้แจงภายหลังว่า ตัวเลขทรัพย์สินที่ลดลงอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
โดยบริษัทกำลังพิจารณาที่จะแยกการดำเนินธุรกิจผลิตหน่วยความจำ ซึ่งยังมีกำไรอยู่ออกจากกันและหาบริษัทอื่นๆมาเป็นผู้ร่วมลงทุน และบริษัทยังมีแผนที่จะขายทรัพย์สินและธุรกิจอื่นๆออกไปอีกด้วย เพื่อหาเงินทุนประมาณ 300,000 ล้านเยนมาชำระหนี้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ธุรกิจพลังงานนิวเคลียร์ของโตชิบาทำรายได้ให้บริษัทถึง 1 ใน 3 แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์โรงไฟฟ้าที่ฟุกุชิมาเมื่อปี 2554 ก็ทำให้ความเชื่อมั่นในธุรกิจนี้ลดลง
หนังสือพิมพ์นิกเคอิของญี่ปุ่นและสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โตชิบามีการร้องขอความช่วยเหลือไปที่ DBJ และกำลังมองหาช่องทางที่จะแยก Nand ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตหน่วยความจำคอมพิวเตอร์ที่ยังมีกำไรออกไปเพื่อระดมทุนและลดภาระบริษัทแม่
โดยโตชิบามีแผนจะทำสัญญากับธนาคารเพื่อขอการสนับสนุนทางด้านการเงิน ทางรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทจะมีการประชุมกับทางธนาคารในสัปดาห์นี้
ทางบริษัทแถลงเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ว่า โตชิบายังอยู่ในกระบวนการประเมินค่าทรัพย์สิน “ ทางบริษัทยังปรึกษากันอยู่ว่า จะแก้ปัญหาในประเด็นนี้อย่างไร และยังไม่มีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการ ”.