คาด ‘ทรัมป์’ อาการไม่ค่อยดี

นิวยอร์ก : แพทย์หลายคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาโควิด-19 ให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้ความเห็นว่า ข่าวที่แพทย์เริ่มมีการใช้ยาเดกซาเมทาโซน ( ซึ่งเป็นสารสเตียรอยด์ที่ใช้เพื่อลดอาการอักเสบ) เป็นหลักฐานสำคัญที่ชี้ชัดว่าอาการป่วยของทรัมป์น่าจะค่อนข้างหนักเกินกว่าที่คาดไว้
เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ทีมแพทย์ที่รักษาทรัมป์ระบุว่า เริ่มใช้สเตียรอยด์ให้ประธานาธิบดีหลังจากระดับออกซิเจนของเขาลดลง แต่อาการของเขาดีขึ้นแล้ว และอาจจะออกจากโรงพยาบาลได้ในวันที่ 5 ต.ค.
“ จากที่ผมได้ยินจากการแถลงข่าว ชี้ให้เห็นว่าท่านประธานาธิบดีมีอาการหนักกว่าที่คาดไว้” ดร.แดเนียล แมคควิลเลน ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อประจำรพ.และศูนย์แพทย์ Lahey ในเบอร์ลิงตัน รัฐแมสซาชูเซตส์กล่าว
โดยสมาคมแพทย์โรคติดต่อแห่งอเมริการะบุว่า เดกซาเมทาโซนใช้รักษาผู้ป่วยอาการหนัก หรือผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงที่ต้องการออกซิเจนเพิ่ม แต่จากผลการศึกษาชี้ว่ายาตัวนี้ไม่ช่วยมากนัก และอาจเป็นอันตรายมากขึ้นกับผู้ป่วยที่มีอาการน้อยกว่า
การให้ยาตัวนี้กับผู้ป่วยในวัย 74 ปีและมีน้ำหนักตัวมาก ทำให้มีความซับซ้อนและเสี่ยงมากขึ้น “ ยาแรงเกินไปสำหรับการรักษาในระยะเริ่มต้น” ดร.สจวต โคเฮน ผอ.ฝ่ายโรคติดต่อของ UC Davis Health ในแคลิฟอร์เนียกล่าว
เขาและแพทย์คนอื่นๆ ซึ่งเคยรักษาผู้ป่วยโควิด-19 นานหลายเดือนระบุว่า ทรัมป์ ซึ่งทักทายบรรดาผู้สนับสนุนหน้าโรงพยาบาลจากในรถขณะรถวิ่งผ่านในช่วงเย็นของวันที่ 4 ต.ค. อาจออกจากโรงพยาบาลได้ โดยทรัมป์กลับไปที่รพ.ทหารวอลเตอร์ รี้ดอีกหลังออกไปช่วงสั้นๆ
“ ท่านไม่ได้ออกไปเพื่อกลับบ้านซึ่งไม่มีระบบการรักษาที่ดีพอ ที่ทำเนียบขาวมีโรงพยาบาลที่รักษาอาการได้แค่เบื้องต้น” ดร.วาลิด เจลลาด อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยพิตสเบิร์กกล่าว
ทรัมป์เดินทางมาที่โรงพยาบาลในวันที่ 2 ต.ค. หลังพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ขณะอยู่ที่ทำเนียบขาว ทรัมป์ได้รับยาเพิ่มแอนติบอดี้ซึ่งยังอยู่ในระยะทดลองจากบ. Regeneron Pharmaceuticals ในช่วงต้นของการรักษา และในวันที่ 3 ต.ค. ทรัมป์เริ่มการรักษาเป็นเวลา 5 วันด้วยการใช้ยาต้านไวรัส Remdesivir
แพทย์ระบุว่า ยาทั้งสองตัวนี้มีผลดีกับการใช้ในช่วงเริ่มต้นเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยมีอาการแย่ลง แต่โดยทั่วไป เดกซาเมทาโซนใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการแย่ลง
“ เราให้เดกซาเมทาโซนกับผู้ป่วยที่ต้องการออกซิเจนเพิ่ม” ดร.อาเมช อดาลจา ผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่อที่มหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินสระบุ
หากทรัมป์ไม่ต้องการออกซิเจนเพิ่ม และสามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ แพทย์ที่รักษาอาจให้เขาออกจากรพ.ได้
“ คำถามสำคัญคือ ท่านอาการแย่ลง หรือว่ากำลังดีขึ้น ? ” ดร.อดาลจากล่าว
แพทย์ระบุว่า ผู้ป่วยที่ตอบสนองกับการรักษาได้ดีจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้เร็ว แต่ก็ต้องมีการเฝ้าระวังจับตาอย่างใกล้ชิด
“ ผู้ป่วยโควิด-19 หลายคนเริ่มมีอาการแย่ลง หายใจลำบากและมีอาการอื่นๆประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากติดเชื้อ” ดร.ราเจช คานธี ผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่อประจำรพ.แมสซาชุเซตส์ในบอสตันกล่าว
ขณะที่ ดร.เดวิด แบตติเนลลี หัวหน้าแพทย์ที่รพ.นอร์ธเวลในนิวยอร์กระบุว่า “ ต้องปรบมือให้เลย” หากทรัมป์สามารถออกจากรพ.ได้ในวันที่ 5 ต.ค. แต่พึงระวังไว้ว่าการฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ของผู้ป่วยต้องใช้เวลา
“ ไม่มีแนวโน้มว่าท่านจะสามารถออกมาเดินหน้าหาเสียงต่อได้ในเวลาน้อยกว่า 14 วัน” เขากล่าว