‘ไบเดน’ เสียภาษีเกือบ 3 แสนดอลลาร์ปี 62
วอชิงตัน – เมื่อวันที่ 29 ก.ย. โจ ไบเดน คู่แข่งในการเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรคเดโมแครตเปิดเผยข้อมูลการเสียภาษีของเขาในปี 2562 ที่ชี้แจงว่าเขาและภรรยาเสียภาษีเกือบ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีที่แล้ว และมีรายได้รวม ประมาณ 985,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
การเปิดเผยข้อมูลเสียภาษีปี 2562 ของเขามีขึ้นก่อนการดีเบตครั้งแรกในการหาเสียงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และสองวันหลังจากสื่อนิวยอร์กไทม์สรายงานว่าทรัมป์ไม่เสียภาษีเงินได้ใน 10 ปีจาก 15 ปี ตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา โดยทรัมป์เสียภาษีรายได้น้อยมากคือเพียง 750 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2559 และ 2560 เขาไม่ยอมแสดงเอกสารการเสียภาษีให้สาธารณชนรับรู้ เป็นการแหวกธรรมเนียมปฏิบัติของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯและผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งที่มีมานานหลายทศวรรษ
ขณะที่กมลา แฮร์ริส วุฒิสมาชิกรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คู่กับไบเดน ก็ได้เผยข้อมูลการเสียภาษีของเธอในปี 2562 ในวันที่ 29 ก.ย. โดยชี้ให้เห็นว่าเธอและสามีเสียภาษีประมาณ 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีรายได้ประมาณ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
“ นี่เป็นระดับความโปร่งใสครั้งประวัติศาสตร์ และทำให้ชาวอเมริกันมีความเชื่อมั่นอีกครั้งว่าผู้นำของเขาจะดูแลเขาและไม่ยกเว้นเฉพาะเรื่องของตัวเอง” เคท เบดดิงฟีลด์ รองผู้จัดการแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งของไบเดนกล่าวกับสื่อเมื่อวันที่ 29 ก.ย. โดยย้ำว่าไบเดนได้เปิดเผยข้อมูลการเสียภาษีของเขานานกว่าสองทศวรรษ
จากเอกสารการเสียภาษีไบเดนได้บริจาคเงินให้การกุศล 14,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเอกสารระบุว่า ครอบครัวไบเดนมีรายได้จากวิทยาลัยชุมชนนอร์ธ เวอร์จิเนีย ซึ่งไบเดนสอนอยู่ และม.เพนซิลวาเนีย ซึ่งไบเดนเป็นประธานศูนย์การทูต นอกจากนี้ ครอบครัวเขายังมีรายได้จากการกล่าวสุนทรพจน์และหนังสือ ผ่านความร่วมมือที่เขาจัดตั้งขึ้น
ไบเดนเป็นวุฒิสมาชิกมานาน 6 สมัยก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯในสมัยของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา และข้อมูลการเงินของเขาชี้ว่า เขาจัดอยู่ในกลุ่มวุฒิสมาชิกที่มีความมั่งคั่งร่ำรวยน้อยที่สุด ขณะที่เขานิยามตัวเองว่า เขาเป็น “ชนชั้นกลาง” ในการหาเสียงเลือกตั้ง
แต่ในช่วงสองปีที่เขาออกจากทำเนียบขาวมา ไบเดนมีรายได้ 15.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากค่าบัตรเข้าชมการกล่าวสุนทรพจน์และกำไรจากหนังสือ เขาและภรรยาคือจิล ไบเดนมีรายได้ 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯปี 2560 และ 4.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2561 เขาจ่ายภาษี 3.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2560 และ 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2561 จากเอกสารการเงินที่ไบเดนเปิดเผยในปีที่แล้ว
รายงานอื้อฉาวของสื่อนิวยอร์กไทม์สเกี่ยวกับข้อมูลการเสียภาษีของทรัมป์เป็นเวลานานกว่าสองทศวรรษ รวมถึงการขาดทุนทางการเงินและการเลี่ยงภาษี
โดยรายงานระบุว่า เขาขอคืนภาษีจำนวน 72.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับภาษีที่เขาจ่ายไประหว่างปี 2548 – 2551
เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ทรัมป์ปฏิเสธรายงานของนิวยอร์กไทม์สที่ทำเนียบขาว และอ้างว่า เขาจ่ายภาษีให้รัฐบาลกลางไป “เยอะมาก”