กูเกิลให้พนักงาน WFH แบบไฮบริด
บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างกูเกิลกำลังพิจารณาทบทวนทางเลือกในการทำงานระยะยาวสำหรับพนักงาน เนื่องจากพนักงานส่วนใหญ่ของกูเกิลระบุว่า พวกเขาไม่อยากกลับมาทำงานที่ออฟฟิศเต็มเวลาเหมือนเดิม
เมื่อวันที่ 23 ก.ย. สุนทร พิชัย ซีอีโอของอัลฟาเบท บริษัทแม่ของกูเกิลระบุในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสารไทม์ว่า ผลสำรวจล่าสุดของบรรดาพนักงานเกี่ยวกับความพอใจในบริษัทที่มีการเผยแพร่ออกมาสัปดาห์นี้ พบว่า 62% ของพนักงานกูเกิลอยากกลับไปทำงานที่ออฟฟิศ แต่ไม่ใช่ทุกวัน ทำให้ตอนนี้ กูเกิลกำลังทำงานในโมเดลแบบไฮบริด ด้วยการปรับเปลี่ยนการทำงานในออฟฟิศ และพิจารณาให้มีทางเลือกมากขึ้นสำหรับการทำงานทางไกลในระยะยาว
“ ผมมองเห็นอนาคตที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น” เขาระบุในการให้สัมภาษณ์ “ เราเชื่อมั่นในบุคคล การอยู่ร่วมกัน มีความรู้สึกว่าการอยู่รวมกันเป็นชุมชนมีความสำคัญมาก เมื่อคุณต้องแก้ไขปัญหายากๆ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ แต่เราคิดว่าเราจำเป็นต้องสร้างโมเดลที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และเป็นไฮบริดมากขึ้น”
มีการคิดแผนระยะยาวขึ้น ในช่วงเวลาที่กูเกิลค่อยๆ เผยรายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับแผนที่จะให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศ และมีการแข่งขันกับบริษัทไฮเทคอื่นๆเพื่อชิงตัวคนเก่งที่มีความสามารถโดดเด่น ก่อนหน้านี้ในช่วงฤดูร้อน บริษัทให้พนักงานมีทางเลือกในการทำงานที่บ้านไปจนถึงเดือนก.ค.2564 จากผลกระทบของวิกฤตไวรัสโคโรนา โดยเฟซบุ๊กเองก็ประกาศเช่นนี้ในเวลาไล่เลี่ยกัน ขณะที่บริษัทอย่างทวิตเตอร์ ระบุชัดเจนว่าพนักงานสามารถทำงานที่บ้านได้ “ตลอดชีวิต”
กูเกิลเตรียมตัวอย่างเร็วในช่วงเกิดโรคระบาดโควิด-19 และมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นรวมถึงการสื่อสารภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม พนักงานก็จะไม่ได้สิทธิพิเศษที่บริษัทเคยมีให้ เช่น บริการอาหารกลางวันที่บริษัท
10% ของพนักงานกูเกิล ( ลดลงจาก 20% ในผลสำรวจเดือนพ.ค.) ระบุว่าพวกเขาไม่อยากกลับมาทำงานที่ออฟฟิศอีกในอนาคต อ้างอิงจากผลสำรวจล่าสุด ขณะที่ 15% ระบุว่า พวกเขาอยากกลับมาทำงานที่ออฟฟิศเฉพาะอีเวนต์สำคัญเท่านั้น
ทั้งนี้ ผลสำรวจชี้ว่า เหตุผลของพนักงานในการกลับมาทำงานที่ออฟฟิศคือ การได้พบหน้าเพื่อนร่วมงาน มีทักษะในการเข้าสังคม และมีโอกาสในการทำงานร่วมกันที่ดีขึ้น
“ ผมแปลกใจเสมอเมื่อเห็นผู้คนเดินทางสองชั่วโมง และอยู่ห่างจากครอบครัวและเพื่อนๆในวันศุกร์ ” พิชัยระบุในการสัมภาษณ์ โดยอ้างถึงการเดินทางไปทำงานที่ใช้เวลานานที่ซิลิคอน วัลเลย์ “ ผมคิดว่าเราจะทำได้ดีกว่านี้ ”