ฝรั่งเศสคุมเข้ม เผยแผนที่เขตอันตรายใหม่
ปารีส : เมื่อวันที่ 23 ก.ย. รมว.กระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศสเผยแผนที่ “เขตอันตราย” ของโรคระบาดโควิด-19 ทั่วประเทศ และทำให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงกับทางการท้องถิ่น รวมทั้งเมืองมาร์เซย หลังจากมีมาตรการคุมเข้ม หรือมีความเสี่ยงที่จะมีการประกาศภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขที่นั่น
Oliver Veran รมว.สาธารณสุขกล่าวในการแถลงข่าวว่า ฝรั่งเศสจะถูกแบ่งเป็นเขตด้วยระดับการเตือนภัย โดยเมืองมาร์เซย ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ และเกาะกัวเดอลุปของฝรั่งเศสในตอนนี้เป็นสองพื้นที่ซึ่งมีระดับการเตือนภัยสูงสุด
โดยเขาเสริมว่า กรุงปารีสและอีกหลายเขตเมือง รวมทั้งเมืองทางเหนือคือลิล, เมืองตูลูส ทางตะวันตกเฉียงใต้ และอีก 6 เมือง ถูกประกาศให้เป็นเขตอันตรายเพิ่มเติม
“ หากสถานการณ์ของสุขอนามัยในพื้นที่เหล่านั้นเลวร้ายลง จะมีการประกาศภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข ” รมว.สาธารณสุขกล่าว
เหมือนกับประเทศอื่นๆในยุโรปซึ่งมีอัตราการติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นในเดือนที่ผ่านมา ฝรั่งเศสค่อยๆจำกัดการรวมตัวกันในสถานที่สาธารณะและสถานที่ส่วนตัวในประเทศ โดยหวังว่าจะเพียงพอในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และหลีกเลี่ยงที่จะใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศในรอบสอง
หลังการระบาดหยุดลงในฤดูร้อน รัฐบาลของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงให้อำนาจทางการท้องถิ่นในการประกาศใช้มาตรการต่างๆ เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 แทนที่จะเป็นการสั่งการจากรัฐบาลกลางในกรุงปารีส
มีหลายดัชนีชี้วัดที่ถูกนำมาใช้เพื่อจัดระดับอันตรายโดยกระทรวงสาธารณสุข คือ ตัวเลขผู้ติดเชื้อโดยทั่วไป , จำนวนผู้ติดเชื้อวัย 65 ปีขึ้นไป และสัดส่วนผู้ป่วยโควิด-19 ในห้องไอซียู
ไม่นานหลังจากคำประกาศของ Veron กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13,072 รายในรอบ 24 ชม.
โดยเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ประเทศมีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงเกิน 13,000 รายในรอบ 6 วันและตัวเลขผู้ป่วยจากโควิด-19 ที่รักษาตัวในห้องไอซียูมีประมาณ 1,000 ราย สูงที่สุดในรอบกว่า 3 เดือน
ในกรุงปารีสและเมืองอื่นๆ ที่ถูกจัดเป็นเขตอันตราย มีการจำกัดจำนวนคนเข้าร่วมในงานอีเวนต์สำคัญไว้ที่ 1,000 คน จากปัจจุบันที่อนุญาตให้ 5,000 คน โดยให้บาร์และร้านอาหารปิดเวลา 22.00 น.
สองแหล่งข่าวจากรัฐบาลระบุว่า อานน์ ฮิดาลโก นายกเทศมนตรีกรุงปารีสคัดค้านมาตการคุมเข้มการระบาดที่จำกัดเวลาให้บริการของบาร์และคาเฟ่ในเมืองหลวง โดยโต้แย้งว่า จะสร้างความเสียหายกับเศรษฐกิจ
มาตรการคุมเข้มอื่นๆ คือการห้ามการอยู่รวมกันในที่สาธารณะเกิน 10 คน และในเมืองอันตรายสูงสุดอย่างมาร์เซย จะปิดบาร์และร้านอาหารตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.เป็นต้นไป