จีนลงทุนพลังงานทดแทนแซงหน้าชาติอื่น
ความเคลื่อนไหวของจีนในพลังงานทดแทนทั่วโลกทำให้จีนนำหน้าประเทศอื่น โดยทิ้งห่างประเทศสำคัญอย่างสหรัฐฯ สหราชอาณาจักรและออสเตรเลียไว้เบื้องหลังในตลาดพลังงานที่กำลังบูม
โดยรายงานล่าสุดจากสำนักคิดเพื่อเศรษฐกิจพลังงานและการวิเคราะห์ด้านการเงิน (IEEFA) ที่มีสำนักงานอยู่ในสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่า จีนทำข้อตกลงการลงทุนในต่างประเทศสูงถึง 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เฉพาะในปี 2559 เพียงปีเดียว เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ถึง 60%
ทั้งนี้ จีนกลายเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในโลกด้านพลังงานทดแทนไปแล้วตั้งแต่เร่งอัดฉีดเงินลงทุนสูงถึง 103,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2558 แซงหน้าสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าการลงทุนด้านนี้อยู่ที่ 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ในสัปดาห์นี้ สำนักงานบริหารพลังงานแห่งชาติของจีนประกาศว่า จะทุ่มงบประมาณถึง 2.5 ล้านล้านหยวน เพื่อการสร้างไฟฟ้าด้วยพลังงานทดแทนภายในปี 2563 เพื่อเปลี่ยนจากเชื้อเพลิงถ่านหินมาเป็นพลังงานที่สะอาดขึ้น
“ จีนเข้าใจถึงโอกาสทางธุรกิจครั้งใหญ่ในพลังงานทดแทน ” นายทิม บัคลีย์ หัวหน้าผู้เขียนรายงานและเป็นผู้อำนวยการวิจัยการเงินด้านพลังงานของ IEEFA กล่าว
“ จากขนาดของการเติบโตด้านพลังงานที่ปล่อยมลพิษต่ำที่ยังซวนเซในประเทศ จีนจึงเร่งเครื่องในการขยายการลงทุนในต่างประเทศแทน สหรัฐฯ ซึ่งเคยเป็นใหญ่ในยุคน้ำมัน แต่จีนกำลังเริ่มเข้าที่ในการเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดอย่างไร้คู่แข่งในปัจจุบัน อีกไม่กี่ปีต่อจากนี้ สหรัฐฯ จะต้องย้อนกลับมามองอดีตอย่างรู้สึกเสียดาย ”
ทั้งนี้ 5 ใน 6 บริษัทผู้ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปีที่แล้วคือบริษัทจากจีน โดยจีนยังทำข้อตกลงด้านพลังงานลมและแสงอาทิตย์มูลค่าเป็นพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในออสเตรเลีย เหมือง ลิเธียมในชิลี พัฒนาพลังงานจากขยะในเยอรมนีและอื่นๆ ในอินโดนีเซีย อียิปต์ ปากีสถานและเวียดนาม
โดย 4 ใน 5 ของข้อตกลงด้านพลังงานทดแทนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2559 เป็นของบริษัทจากจีน โดยบริษัท Grid Corporation of CPFL Energia ของรัฐบาลจีนเข้าเทคโอเวอร์บริษัทของบราซิล ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนที่ใหญ่ที่สุดในบราซิล
ทั้งนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ทวีตข้อความว่าสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงเกิดจากจีนที่จะสั่นคลอนความสามารถในการแข่งขันในการผลิตของสหรัฐฯ และให้คำมั่นว่าสหรัฐฯ จะยกเลิกข้อตกลงกรุงปารีสที่จะให้ทุกประเทศลดการปล่อยมลพิษจากเชื้อเพลิงฟอสซิล
ทั้งนี้ นายบัคลีย์ทำนายว่า หากนายทรัมป์ยึดติดกับคำสัญญาที่ให้ไว้กับผู้สนับสนุนในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง จะส่งผลให้สหรัฐฯ สูญเสียความสามารถในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจ
“ ปัจจุบัน สหรัฐฯ ล้าหลังจีนในการแข่งขันเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ขึ้นในตลาดพลังงานสะอาดด้วยการบริหารจัดการที่ให้ความสำคัญกับถ่านหินและก๊าซ ทำให้นโนบายในประเทศไม่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีนัก ” เขากล่าว
“ ถ้าสหรัฐฯ ยังคงจริงจังกับการขยายตัวด้านการผลิต พลังงานสะอาดเป็นภาคส่วนที่ไม่ควรมองข้ามไป ” เขาให้ความเห็น
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์สหรัฐ = 35.89 บาท / 1 หยวน = 5.42 บาท / 7 ม.ค. 2560