จีนยื่นคำร้องต่อ WTO
จีนยื่นอุทธรณ์ต่อองค์การการค้าโลก (WTO) ในประเด็นที่จีนถูกสหรัฐอเมริกาและยุโรปใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (การทุ่มตลาดคือ การส่งออกสินค้าไปขายต่างประเทศในราคาต่ำกว่าปกติ)
โดยประเทศผู้ส่งออกสินค้าขายสินค้าในราคาที่ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายในการผลิต เพื่อทำให้ได้ส่วนแบ่งในตลาดจะต้องจ่ายภาษีเพื่อเป็นการลงโทษ – นี่คือกฎของ WTO
แต่ทางรัฐบาลจีนกล่าวว่า อัตราค่าปรับที่เรียกเก็บควรจะต่ำลงกว่านี้ เพราะจีนได้เป็นประเทศสมาชิกของ WTO มานานถึง 15 ปีแล้ว
โดยทางสหรัฐอเมริกาส่งสัญญาณว่า ไม่มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงบทลงโทษของเรื่องนี้
นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปรายงานว่า การยื่นเรื่องร้องเรียนของจีนเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เนื่องจากกระบวนการปรับเปลี่ยนการคำนวณค่าปรับภาษีที่มีต่อจีนต้องได้รับการอนุมัติจาก 28 ประเทศ สมาชิกของสหภาพยุโรปก่อน
หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในกรุงวอชิงตันและกรุงบรัสเซลส์แสดงท่าทีที่จะปกป้องกฎเหล็กนี้อย่างแข็งขัน เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าราคาถูกจากจีนหลั่งไหลเข้ามาในตลาดของประเทศตัวเอง และปิดโอกาสสินค้าที่ผลิตในประเทศ
ทั้งนี้ จีนได้เข้าเป็นสมาชิกของ WTO เมื่อเดือนธ.ค.ปี 2544 และโต้แย้งกฎว่าจีนควรจะได้รับการพิจารณาเป็นเศรษฐกิจแบบตลาด ซึ่งเป็นสถานะที่ควรได้รับการเปลี่ยนแปลงคือไม่ควรมีมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดกับสินค้าจีน
“ น่าเสียใจอย่างยิ่งที่สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปยังคงยึดมั่นในกฎนี้อย่างจริงจัง ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าว “ จีนควรได้รับสิทธิภายใต้กฎของ WTO เพื่อปกป้องและต่อสู้เพื่อสิทธิที่ถูกต้องตามกฎหมาย ”
แต่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าวว่า ข้อตกลงของจีนในการเข้าเป็นสมาชิก WTO ไม่ได้กำหนดให้สมาชิกได้รับสถานภาพของเศรษฐกิจแบบตลาดโดยอัตโนมัติ และได้รับอนุญาตให้ใช้วิธีการตอบโต้การทุ่มตลาดได้
“ สหรัฐอเมริกายังคงกังวลเกี่ยวกับความไม่สมดุลของจีนซึ่งเป็นระบบเศรษฐกิจที่รัฐบาลสั่งการได้โดยตรง เช่น การผลิตที่เกินกำลังจนล้นตลาดทั้งในอุตสาหกรรมเหล็กและอลูมิเนียม และการเป็นรัฐวิสาหกิจในหลายอุตสาหกรรมและธุรกิจในหลายภาคส่วน จีนยังไม่ได้ปฏิรูปสิ่งที่ควรจะทำในการปฏิบัติตัวให้ถูกต้องตามกฎของตลาด ” อ้างอิงจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ.