AstraZeneca หยุดทดสอบวัคซีน กังวลความปลอดภัย
นิวยอร์ก : เมื่อวันที่ 8 ก.ย. บริษัทยารายใหญ่ AstraZenaca แถลงว่า ขอระงับการทดสอบวัคซีนในระยะสุดท้ายไว้ก่อน หลังจากพบว่าอาสาสมัครที่เข้าร่วมในการทดสอบรายหนึ่งมีอาการป่วยที่ไม่สามารถอธิบายได้
“ กรณีนี้ทำให้เราต้องทำตามกระบวนการทบทวนมาตรฐาน และเราขอระงับการทดสอบวัคซีนเพื่อให้มีการพิจารณาทบทวนข้อมูลความปลอดภัยโดยคณะกรรมการอิสระ” Michele Meixell ระบุในอีเมลแถลงการณ์
มีการทดสอบวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทยา AstraZeneca ร่วมกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในหลายพื้นที่ รวมทั้งในสหราชอาณาจักร ซึ่งมีรายงานอาการเจ็บป่วยเกิดขึ้น
ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเคสและเวลาที่เกิดขึ้น แต่คาดว่าผู้เข้าร่วมการทดสอบจะฟื้นตัวดีขึ้น จากรายงานของสื่อ Stat News ซึ่งเป็นสื่อสำนักแรกที่รายงานว่าการทดสอบถูกระงับจาก “ปฏิกิริยาด้านลบที่น่าสงสัย” โดยทางองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ นิยามว่า เป็นปฏิกิริยาด้านลบที่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเกิดจากยาที่ทำการทดสอบ
จากรายงานของสื่อนิวยอร์กไทม์ส ซึ่งอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องในสถานการณ์นี้ระบุว่า ผู้เข้าร่วมการทดสอบวัคซีนรายหนึ่งมีอาการไขสันหลังอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งเป็นอาการที่กระทบไขสันหลังและมักพบบ่อยจากการติดเชื้อไวรัส
รายงานยังระบุว่า ยังไม่ชัดเจนว่าอาการเจ็บป่วยนี้เกิดขึ้นโดยตรงจากวัคซีนของ AstraZeneca และทางบริษัทปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในรายงานนี้
การระงับการทดสอบส่งผลกระทบกับการทดสอบวัคซีนอื่นๆของ AstraZeneca รวมทั้งการทดสอบในระดับคลินิกของผู้ผลิตวัคซีนรายอื่น ซึ่งมองหาสัญญาณของปฏิกิริยาที่เหมือนกัน จากรายงานของ Stat News
ขณะที่ สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ ( US National Institutes of Health) ซึ่งให้ทุนในการทดสอบกับ AstraZeneca ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้
หุ้นของ AstraZeneca ร่วงลงกว่า 8% หลังเปิดการซื้อขายไม่กี่ชั่วโมง ขณะที่หุ้นของบริษัทคู่แข่งผู้พัฒนาวัคซีนอย่าง Moderna ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 4% และ Pfizer เพิ่มขึ้นไม่ถึง 1%
โดย Moderna ระบุในแถลงการณ์ทางอีเมลว่า บริษัทไม่ได้รับผลกระทบใดๆกับการทดสอบวัคซีนโควิด-19 ในเวลานี้
เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ผู้พัฒนาวัคซีนในสหรัฐฯและยุโรปทั้ง 9 รายให้คำมั่นว่าจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางวิทยาศาสตร์และมาตรฐานประสิทธิภาพในการทดสอบวัคซีนสูงสุด แม้จะมีความเร่งด่วนในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาก็ตาม
โดยบรรดาบริษัท ซึ่งรวมทั้ง AstraZeneca ,Pfizer และ GlaxoSmithKline ออกแถลงการณ์ที่พวกเขาเรียกว่า “คำมั่นครั้งประวัติศาสตร์” หลังจากมีความกังวลว่า มาตรฐานความปลอดภัยของวัคซีนอาจไม่สมบูรณ์เต็มร้อย เนื่องจากถูกกดดันทางการเมืองให้รีบเร่งผลิตวัคซีน
ทุกบริษัทระบุว่า จะยึดมั่นในความครบถ้วนสมบูรณ์ของกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการทำงานเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับของหน่วยงานกำกับดูแลประสิทธิภาพและการอนุมัติวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลก โดยบริษัทอื่นๆที่ร่วมลงนามคือ Johnson & Johnson, Merck & Co, Moderna ,Novavax ,Sanofi และ BioNTech