ซัมซุงยืนยันแยกเป็น 2 บริษัท
บริษัทซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ยืนยันว่า บริษัทกำลังพิจารณาการแยกบริษัทออกเป็นสองบริษัท
บริษัทต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจากนักลงทุนบางส่วนให้แยกบริษัทและดำเนินการให้บริษัทมีมูลค่าหุ้นที่สูงขึ้น
บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของเกาหลีใต้ยังได้ประกาศแผนที่จะเพิ่มเงินปันผล และจะดำเนินการซื้อคืนหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ มีแรงกดดันเพิ่มขึ้นให้มีการปรับโครงสร้างบริษัทหลังจากเกิดวิกฤติสมาร์ทโฟนรุ่นโน้ต 7 ที่สร้างความเสียหายให้กับบริษัทอย่างรุนแรงและกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ไปทั่วโลก
ในเดือน ต.ค. ทางซัมซุงถูกบีบให้ต้องตัดสินใจระงับการผลิตสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงนี้ หลังจากล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาของแบตเตอรี่ที่ทำให้สมาร์ทโฟนติดไฟลุกไหม้และระเบิดในหลายกรณี
โดยบริษัทรายงานเพิ่มเติมว่า จะจ่ายเงินครึ่งหนึ่งของกระแสเงินสดให้ผุ้ถือหุ้นสำหรับปี 2559 และ 2560 และเพิ่มจำนวนเงินปันผลขึ้น 36% สำหรับปี 2559 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้านี้
เพื่อเป็นการปรับปรุงการบริหาร ทางบริษัทยังได้เสนอให้มีคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ในระดับนานาชาติที่เป็นอิสระ รวมถึงการสร้างคณะกรรมการบริหารที่แยกส่วนอย่างชัดเจน
ทางซัมซุงมีแถลงการณ์ออกมาหลังจากกองทุนบริหารความเสี่ยง Elliott Management ในสหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการแยกบริษัทเพื่อจุดประสงค์ในการถือครองหุ้นและมีบริษัทที่มีการดำเนินการที่แยกจากกัน
ในปัจจุบัน หลายบริษัทที่อยู่ภายใต้เครือข่ายของซัมซุงกรุ๊ปถูกเชื่อมโยงผ่านการถือหุ้นไขว้กันที่สับสนวุ่นวายราวกับใยแมงมุม เป็นการเชื่อมโยงซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์เข้ากับบริษัทอื่นๆของซัมซุงและกิจการทั้งหลายในเครือทั้งธุรกิจเดินเรือ อุตสาหกรรมหนัก และธุรกิจประกันภัย
ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับนักลงทุนที่อยากได้ความชัดเจนว่าแต่ละบริษัทของซัมซุงมีมูลค่าการลงทุนที่แท้จริงมากแค่ไหน
โดยข้อดีของการแยกบริษัทซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์เป็น 2 บริษัทจะทำให้การถือหุ้นไขว้กันจะส่งผลกระทบเฉพาะบริษัทแม่ ขณะที่บริษัทที่ดำเนินการสามารถมีทรัพย์สินแยกจากกัน ทำให้เป็นเรื่องง่ายมากขึ้นที่จะประเมินมูลค่าของบริษัทได้อย่างชัดเจน
ข้อเสนอนี้ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนในบริษัทซัมซุงจำนวนมาก นอกจากนี้ยังทำให้ตระกูลอี ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งซัมซุงมีศักยภาพในการบริหารบริษัทมากยิ่งขึ้น.