CDC สหรัฐฯให้ทุกรัฐพร้อมกระจายวัคซีนปลายต.ค.
วอชิงตัน ( รอยเตอร์) – ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ ขอให้หน่วยงานสาธารณสุขของทุกรัฐเตรียมพร้อมในการกระจายวัคซีนไวรัสโคโรนาให้กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงในช่วงปลายเดือนต.ค. จากเอกสารที่ตีพิมพ์โดย CDC เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา
วัคซีนโควิด-19 มีความสำคัญทางการเมืองอย่างมากกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการลงเลือกตั้งอีกสมัยในเดือนพ.ย. หลังจากรัฐบาลใช้งบประมาณส่วนกลางหลายพันล้านดอลลาร์ในการพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันโควิด-19 ซึ่งได้คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วกว่า 180,000 คน
“ จุดประสงค์แรกของแผนการ CDC ขอให้รัฐมีการดำเนินการที่เจาะจงในการกระจายวัคซีน ซึ่งจะมีวัคซีนในปริมาณจำกัดเดือนต.ค.และพ.ย.” โฆษก CDC กล่าวให้สัมภาษณ์สื่อ
สื่อนิวยอร์กไทม์สรายงานก่อนหน้านี้ว่า CDC ได้ติดต่อไปที่หน่วยงานสาธารณสุขทั้ง 50 รัฐ และ 5 เมืองใหญ่เพื่อแจ้งข้อมูลของแผนการ
ดร.แอนโธนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อของสหรัฐฯระบุก่อนหน้าวันที่ 2 ก.ย.ว่า จากข้อมูลพื้นฐานของการทดสอบวัคซีนโควิด-19 จะทราบข้อมูลทางคลินิกภายในเดือนพ.ย. หรือธ.ค. ว่า วัคซีนใดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
เอกสารที่สื่อนิวยอร์กไทม์สรายงานในโลกออนไลน์แสดงให้เห็นว่า CDC กำลังเตรียมพร้อมว่าจะมีวัคซีน 1 หรือ 2 ตัวในปริมาณจำกัดเร็วที่สุดช่วงปลายเดือนต.ค.นี้
โดยจะมีการให้วัคซีนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงคือ บุคลากรทางการแพทย์ , เจ้าหน้าที่รัฐที่ดูแลความมั่นคงของชาติ ผู้สูงวัยที่อยู่ในเนิร์สซิงโฮมและเจ้าหน้าที่ อ้างอิงจากเอกสาร
ผลสำรวจเบื้องต้นของกลุ่ม Business Partners to Convince ที่จัดทำขึ้นในช่วงสามเดือนล่าสุดใน 19 ประเทศชี้ว่า มีผู้ตอบแบบสอบถามในสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯประมาณ 70% เท่านั้นที่จะฉีดวัคซีนโควิด-19 หากมีวัคซีนแล้ว
ในปัจจุบัน บริษัทยายักษ์ใหญ่คือ Moderna , Astra Zeneca และ Pfizer กำลังเป็นผู้นำในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
เอกสารของ CDC ระบุว่า ต้องมีการจัดเก็บวัคซีนทั้งสองตัวที่อุณหภูมิ -70 และ -20 องศาเซลเซียส ซึ่งรายละเอียดของการจัดเก็บตรงกับวัคซีนที่พัฒนาโดย Pfizer และ Moderna
ในเดือนส.ค. กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯระบุว่า CDC ได้ลงนามในสัญญากับ McKesson Corp ในการกระจายวัคซีน โดยโรเบิร์ต เรดฟีลด์ ผอ.CDC ขอให้บรรดาผู้ว่าการรัฐเร่งทำตามคำขอของ McKesson ในการสร้างศูนย์กระจายวัคซีน และพิจารณายกเว้นข้อกำหนดที่จะเป็นอุปสรรคกีดขวางไม่ให้มีการดำเนินการได้อย่างเต็มที่ภายในวันที่ 1 พ.ย.นี้ อ้างอิงจากเอกสารล่าสุดที่สื่อรอยเตอร์ได้รับ