คิวบาอาลัยกับการจากไปของฟิเดล คาสโตร
ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลในคิวบาหยุดการเดินขบวนประท้วงประจำสัปดาห์เป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปีเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมาหลังจากการเสียชีวิตของอดีตผู้นำในการปฏิวัติและประธานาธิบดีที่ทำให้ประชาชนเศร้าโศกและประเทศอยู่ในภาวะซึมเศร้าชะงักงัน
นายฟิเดล คาสโตร อดีตประธานาธิบดีซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสงครามเย็น ได้สร้างรัฐคอมมิวนิสต์ขึ้นมาในคิวบา และต่อต้านความพยายามที่จะโค่นล้มเขาจากฝั่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้นานถึง 10 คน เขาถึงแก่อนิจกรรมด้วยวัย 90 ปี
โดยรัฐบาลคิวบาได้ประกาศให้เป็นวันหยุดราชการถึง 9 วันเพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับอดีตผู้นำคนสำคัญ และสั่งระงับการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่ยกเลิกการแข่งขันเบสบอล
กลุ่มผู้ต่อต้านซึ่งเป็นสตรีในชุดสีขาวตัดสินใจที่จะหลีกเลี่ยงความตึงเครียดไม่ให้เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้
“ เราจะไม่เดินขบวนในวันนี้ เพื่อไม่ให้รัฐบาลต้องมากังวล จะได้จัดเตรียมงานพิธีเพื่ออุทิศให้กับท่านอดีตผู้นำได้อย่างเต็มที่ ” นางสาวเบอร์ตา โซเลอร์ ผู้นำกลุ่มประท่วงกล่าวเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา
“ เราเคารพในการแสดงความอาลัยต่อการเสียชีวิตของผู้อื่น และจะไม่เฉลิมฉลองให้กับความตายของมนุษย์อย่างแน่นอน ”
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลก่อตั้งขึ้นเพื่อให้การสนับสนุนบรรดาสามีที่ถูกคุมขังในข้อหาขัดแย้งทางการเมือง เรียกร้องให้มีการเดินขบวนประท้วงในเมืองฮาวานา โดยมีการชุมนุมประท้วงที่โบสถ์โรมันคาธอลิก ทุกสัปดาห์มานานถึง 13 ปีติดต่อกัน โดยกลุ่มผู้ต่อต้านนี้ได้รับเงินสนับสนุนจากชาวคิวบาที่ลี้ภัยไปสหรัฐฯ รัฐบาลคิวบามองว่าสมาชิกกลุ่มต่อต้านนี้รับจ้างรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อจะโค่นล้มการปกครองในคิวบา
สาเหตุการเสียชีวิตของอดีตผู้นำคาสโตรยังไม่เป็นที่เปิดเผย แต่เขาเกือบเสียชีวิตจากโรคลำไส้มาครั้งหนึ่งตั้งแต่ปี 2549 เขาถ่ายโอนอำนาจให้น้องชาย นายราอุล เป็นผู้ปครองคิวบาในปี 2551 หลังจากเป็นผู้นำประเทศมายาวนานเกือบครึ่งศตวรรษ
ประชาชนชื่นชมเขาหลังจากการปฏิวัติในปี 2502 เนื่องจากเขาปกครองคิวบาด้วยระบบอบคอมมิวนิสต์ แต่ก็มีสวัสดิการที่ดีให้ประชาชน ทั้งการรักษาพยาบาลและการศึกษา แต่ก็ถูกประณามมายาวนานเช่นกันในเรื่องการขาดเสรีภาพทางการเมืองของประชาชน
“ คุณพูดเรื่องการเมืองไม่ได้เลย ไม่มีการประท้วงต่อสาธารณะเพราะมีการใช้มาตรการที่เข้มงวด ไม่มีใครอยากติดคุกหรอก ” นายโรเบอร์โต วัย 53 ปี ซึ่งไม่เปิดเผยนามสกุลเพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยให้ความเห็นกับผู้สื่อข่าว
ท้องถนนในเมืองฮาวานาเงียบเหงาหลังข่าวการเสียชีวิตของเขา ประชาชนแสดงความอาลัยด้วยการติดธงชาติคิวบาที่บ้านเพิ่มขึ้นมาก
นางสาวเอลลีน คูติโน วัย 27 ปี กล่าวว่าเธอคงไม่มีโอกาสเรียนมหาวิทยาลัยถ้าไม่มีอดีตผู้นำฟิเดล คาสโตร เธอร้องไห้อย่างหนักเมื่อทราบข่าวร้าย เธอกล่าวว่าเธอยังยอมรับความจริงเรื่องนี้ไม่ได้
“ ดิฉันเชื่อว่า จะไม่มีใครที่เหมือนท่านฟิเดลอีกแล้ว เราต้องการท่าน ท่านเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ ” เธอกล่าว