สหรัฐฯติดเชื้อใหม่ลดลง 5 สัปดาห์ต่อเนื่อง
นิวยอร์ก : จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐฯลดลง 17% ในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 จากรายงานการประเมินตัวเลขในระดับรัฐและเคาน์ตีของสื่อรอยเตอร์
แม้จะยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เกือบ 1,000 รายต่อวันอย่างต่อเนื่อง แต่ในสัปดาห์ที่แล้วมีผู้เสียชีวิตกว่า 6,700 ราย ลดลง 9% จากสัปดาห์ก่อนหน้า
สหรัฐฯ รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 297,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 23 ส.ค. ลดลงจากที่เคยพุ่งขึ้นไปสูงสุดกว่า 468,000 รายกลางเดือนก.ค.
โดยตอนนี้ สหรัฐฯมีอัตราเฉลี่ยของผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันน้อยกว่า 50,000 รายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย.เป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาดรุนแรงที่สุดในโลก โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมคิดเป็น 1 ใน 4 ของยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกถึง 23 ล้านราย
โดยรัฐที่มีเปอร์เซนต์ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นสูงสุดในสัปดาห์ที่แล้วในสหรัฐฯ คือรัฐเซาธ์ดาโกต้าคือ 50%
ตัวเลขการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลังมีอีเวนต์การรวมตัวของกลุ่มมอเตอร์ไซค์ประจำปีในสเตอร์กิส ซึ่งมีผู้ขับขี่มารวมกันกว่า 100,000 คนจากทั่วประเทศในช่วงวันที่ 7 – 16 ส.ค. โดยฝ่ายสาธารณสุขของรัฐเซาธ์ดาโกต้ายังไม่ได้ให้ความเห็นในประเด็นนี้
ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 30% ในรัฐนอร์ธดาโกต้าที่อยู่ใกล้เคียง และเพิ่มขึ้น 24% ในรัฐไวโอมิง
ทั้งนี้ สหรัฐฯ มีการตรวจทดสอบหาเชื้อกับประชาชนโดยเฉลี่ย 675,000 รายต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลงจากที่เคยพุ่งขึ้นสูงสุดช่วงปลายเดือนก.ค.กว่า 800,000 รายต่อวัน
อัตราส่วนทั่วประเทศของผู้ที่เคยตรวจพบว่าติดเชื้อและกลับมาติดเชื้อใหม่อีกครั้งอยู่ที่ 6.3% ลดลงจากเดิม 7% ในสัปดาห์ก่อนหน้า และต่ำกว่าช่วงที่เคยพุ่งสูงสุดถึง 9% ในช่วงกลางเดือนก.ค. จากข้อมูลของ COVID Tracking Project ซึ่งเป็นกลุ่มอาสาสมัครที่ช่วยติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
รัฐเซาธ์แคโรไลนามีอัตราการติดเชื้อสูงสุดในประเทศอยู่ที่ 22% รองลงมาคือรัฐเท็กซัส เนวาด้า และไอดาโฮคือ 16%
มีอย่างน้อย 29 รัฐในสหรัฐฯ ที่มีรายงานการติดเชื้อสูงเกิน 5% ซึ่งเป็นระดับที่องค์การอนามัยโลกพิจารณาว่าเป็นระดับที่น่ากังวล เพราะตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นว่า ยังมีการติดเชื้อในประเทศมากกว่านี้ที่ยังไม่ถูกตรวจพบ