WHO เตือนระบาดหนักในกลุ่ม 20-40 ปี
มะนิลา ( รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 18 ส.ค. องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า มีความกังวลว่า มีการแพร่ระบาดของโควิด -19 เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มคนอายุ 20 – 40 ปีกว่า โดยหลายคนไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อ ทำให้เป็นอันตรายกับประชากรกลุ่มเปราะบาง
โดย WHO ระบุในเดือนส.ค.ว่า สัดส่วนของกลุ่มคนหนุ่มสาวที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก ทำให้เกิดความเสี่ยงขยายวงกว้างขึ้นกับประชากรทั่วโลก โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้สูงวัยและผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชุมชนแออัด ซึ่งระบบสาธารณสุขย่ำแย่ต่ำกว่ามาตรฐาน
“ การระบาดกำลังเปลี่ยนแปลงไป” ทาเคชิ คาซาอิ ผอ.พื้นที่แปซิฟิกตะวันตกของ WHO ระบุในการแถลงข่าวเสมือน “คนในวัย 20 – 40 ปีกว่ากำลังเป็นปัจจัยสำคัญของการแพร่ระบาด คนจำนวนมากไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อ”
“ เรื่องนี้เพิ่มความเสี่ยงที่จะส่งผลกับคนกลุ่มเปราะบาง” เขาเสริม
จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นทำให้หลายประเทศต้องมีมาตรการคุมเข้มรอบใหม่ ในขณะที่หลายบริษัทเร่งพัฒนาวัคซีนเพื่อสกัดไวรัสที่ทำลายเศรษฐกิจ คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปมากกว่า 770,000 ราย และมีผู้ติดเชื้อเกือบ 22 ล้านคนทั่วโลก จากการประเมินของรอยเตอร์
มีรายงานในหลายประเทศที่ดูจะสามารถควบคุมไวรัสได้ รวมทั้งเวียดนาม ซึ่งไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศมานานถึง 3 เดือนจากความพยายามอย่างเข้มงวดก่อนหน้านี้
“ สิ่งที่เราสังเกตเห็นไม่ใช่การติดเชื้อเพิ่มขึ้นแบบปกติ เราเชื่อว่าเป็นสัญญาณว่า เราได้เข้าสู่ระยะใหม่ของการระบาดในเอเชีย-แปซิฟิกแล้ว ” คาซาอิระบุ
โดยเขากล่าวว่า หลายประเทศมีศักยภาพที่ดีกว่าในการลดอุปสรรคกีดขวางที่มีกับชีวิตและเศรษฐกิจ ด้วยการใช้ยุทธศาสตร์เชิงรุกเร่งตรวจหาเชื้อ และรับมือกับการติดเชื้ออย่างรวดเร็ว
ขณะที่มีการตรวจพบว่าไวรัสโคโรนามีการกลายพันธุ์ แต่ WHO ยังคงมองว่าไวรัส “ค่อนข้างเสถียร” คาซาอิระบุ
ทั้งนี้ WHO ยังเตือนบริษัทผู้ผลิตยาให้ปฏิบัติตามขั้นตอนการวิจัยและพัฒนาที่จำเป็นทั้งหมดในระหว่างกระบวนการคิดค้นและพัฒนาวัคซีนโควิด-19
โซคอร์โร เอสคาลันเต ประธานเจ้าหน้าที่ทางเทคนิค และที่ปรึกษานโยบายยาระบุว่า ทาง WHO ได้มีการประสานความร่วมมือกับรัสเซีย ซึ่งในเดือนส.ค.นี้ กลายเป็นประเทศแรกในโลกที่ได้รับการอนุมัติวัคซีนโควิด-19
“ เราหวังที่จะได้รับการตอบสนองในแง่หลักฐานข้อพิสูจน์ของวัคซีนใหม่นี้” เอสคาลันเตระบุ