ประท้วงทรัมป์ต่อเนื่องในสหรัฐฯ
ผู้ชุมนุมประท้วงเคลื่อนไปตามถนนในเมืองใหญ่ทั่วสหรัฐอเมริกาเป็นวันที่ 2 แล้วในวันที่ 10 พ.ย. เพื่อต่อต้านชัยชนะในการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์
โดยเมืองฝั่งคะวันออก มีผู้ประท้วงรวมตัวกันในวอชิงตัน บัลติมอร์ ฟิลาเดลเฟีย และนิวยอร์ก ขณะที่ทางฝั่งตะวันตก มีผู้ชุมชุมประท้วงอยู่ที่ลอสแองเจลิส ซานฟรานซิสโก โอคแลนด์ ในรัฐแคลิฟอร์เนียและพอร์ทแลนด์ในรัฐโอเรกอน
เมื่อวันที่ 10 พ.ย.จำนวนผู้มารวมตัวกันเพื่อชุมนุมประท้วงลดลงกว่าวันแรกและมีความรุนแรงน้อยลง ขณะที่วัยรุ่นและคนหนุ่มสาวเป็นผู้ประท้วงส่วนใหญ่ของกลุ่มคนในวันนี้
ผู้ชุมนุมหลายสิบคนเดินเข้าไปรวมตัวกันที่อินเตอร์สเตท 94 ปิดการจราจรทั้งสองฝั่งไม่น้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีเหตุที่ผู้ประท้วงไปขวางการจราจรบนทางหลวงในลอส แองเจลิสที่ติดขัด จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขอเคลียร์พื้นที
ที่เมืองบัลติมอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่า มัผู้ชุมนุมประมาณ 600 คนที่เดินขบวนเข้าไปในตัวเมืองที่ฮาร์เบอร์ และนั่งลงบนพื้นผิวถนนเพื่อขัดขวางการจราจร มีผู้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ 2 ราย
ส่วนที่เมืองเดนเวอร์ สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีกลุ่มผู้ประท้วงประมาณ 3,000 คนที่นั่งบนพื้นถนนในเมืองหลวงของรัฐโคโลราโดแห่งนี้ และเดินทะลุเขตเมือง นับเป็นสถานที่ที่มีผู้มาชุมนุมมากที่สุดของคืนวันที่ 10 พ.ย. นอกจากนี้ ยังมีผู้คนหลายร้อยคนที่เดินรวมกลุ่มกันเข้าไปในตัวเมืองดัลลาสด้วยเช่นกัน
ในซานฟรานซิสโก นักเรียนมัธยมมากกว่า 1,000 คนประท้วงผละออกจากห้องเรียนในเช้าวันที่ 10 พ.ย. และเดินขบวนเข้าไปในเขตธุรกิจการเงินของเมือง โบกธงสีรุ้งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประชาคมกลุ่มเลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล และพวกข้ามเพศ ธงชาติเม็กซิกัน และอื่นๆเพื่อประท้วงต่อต้านนายทรัมป์
นอกจากนี้ ที่กรุงวอชิงตัน มีผู้ชุมนุมประมาณ 100 คนที่เดินรวมกลุ่มกันมาจากทำเนียบขาว ที่ซึ่งนายทรัมป์มีการประชุมกับประธานาธิบดีบารัค โอบามาเป็นครั้งแรก โดยพวกเขามาประท้วงที่โรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนชั่นแนล
และในช่วงค่ำ มีผู้ประท้วงอย่างน้อย 200 คนที่รวมกลุ่มกันตะโกนว่า “ ไม่เกลียด ไม่กลัว เราต้อนรับผู้อพยพ ” และถือป้ายที่มีข้อความว่า “ ไม่เอาทรัมป์ ไม่ใช่ประธานาธิบดีของเรา”
ทั้งนี้ มีการชุมนุมประท้วงต่อต้านนายทรัมป์ในเมืองสำคัญของสหรัฐฯมากกว่า 12 เมืองเมื่อวันที่ 9 พ.ย.หลังทราบผลการเลือกตั้ง มีประชาชนหลายพันคนที่เข้าร่วมในการประท้วง อาทิเช่น ในนครนิวยอร์ก ซีแอทเทิล ลอส แองเจลิสและโอคแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยในเมืองโอคแลนด์ ผู้ประท้วงก่อการจลาจลด้วยการขว้างปาหน้าต่างร้านค้าแตกกระจายเสียหาย จุดไฟเผา และมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายทรัมป์ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากท่าทีที่แข็งกร้าว และมีนโยบายส่งผู้อพยพที่ลักลอบเข้ามากลับประเทศ นอกจากนี้ ในช่วงรณรงค์หาเสียง เขาแสดงท่าทีและพูดจาดูหมิ่นผู้หญิง มุสลิมและเหยียดเชื้อชาติอย่างรุนแรง แต่เมื่อเขาชนะการเลือกตั้ง เขาได้กล่าวสุนทรพจน์ว่า จะเป็นประธานาธิบดีของขาวอเมริกันทุกคน จะทำให้ประเทศกลับมายิ่งใหญ่ และมีการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มเป็นสองเท่า.