ติดเชื้อใหม่เพิ่มสองเท่าในเกาหลีใต้
โซล (บลูมเบิร์ก) – เมื่อวันที่ 14 ส.ค. เกาหลีใต้รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 103 ราย เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากวันก่อนหน้า ขณะที่มีการประท้วงของนักศึกษาแพทย์ต่อต้านแผนการของรัฐบาลที่จะเพิ่มแพทย์อีก 4 พันคนในสิบปีข้างหน้า
สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในเกาหลีใต้ก่อให้เกิดความกังวล เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อที่ไม่ทราบเส้นทางการติดเชื้อกว่า 13% ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับประเทศในเอเชียอื่นๆ แต่เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าจากอัตราประมาณ 6% ในเดือนพ.ค. ที่มีการแพร่ระบาดในย่านไนท์คลับในกรุงโซล กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า การติดเชื้อล่าสุด ส่วนใหญ่มีความเกี่ยวข้องกับการรวมตัวกันในโบสถ์
“ เราอยู่ในสถานการณ์ที่ร้ายแรง เนื่องจากการติดเชื้อในประเทศกำลังเพิ่มขึ้นทุกวันในช่วงวันหยุดฤดูร้อน” ดร.ควอนจุนอุก รองผอ.ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ (CDC) ระบุ “ เราเห็นสัญญาณว่าเคสผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย ซึ่งตรวจไม่พบ อาจเป็นสเปรดเดอร์อย่างเงียบๆ”
จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ ซึ่งเคยประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ทำให้ตระหนักว่า ไวรัสโคโรนาจะไม่สามารถกำจัดได้อย่างถาวรโดยปราศจากวัคซีน โดยนิวซีแลนด์และเวียดนามต้องมีมาตรการคุมเข้มรอบใหม่ หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศในรอบหลายเดือน
หากการระบาดล่าสุดในเกาหลีใต้ย่ำแย่ลง จะเป็นการต่อสู้รอบใหม่กับโควิด-19 ที่ผ่านมา เกาหลีใต้ประสบความสำเร็จจากยุทธศาสตร์การเร่งตรวจหาเชื้อเชิงรุกและสอบสวนโรคหาเส้นทางการติดเชื้ออย่างรวดเร็ว กลายเป็นตัวอย่างประเทศประชาธิปไตยที่สามารถจัดการกับไวรัสโดยไม่มีมาตรการล็อกดาวน์
จากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 103 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 85 ราย และ 18 รายเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ จากรายงานของ CDC โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ในประเทศมีความเกี่ยวข้องกับการรวมตัวกันในโบสถ์ โรงเรียน และตลาดสดดั้งเดิม
มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลังจากมีความหละหลวมย่อหย่อนของมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และก่อนหน้าวันหยุดยาว 3 วันที่คาดว่าจะมีคนจำนวนมากไปสวนสาธารณะ ไปศูนย์การค้าและร้านอาหาร ในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ เกาหลีใต้อนุญาตให้แฟนเบสบอลและแฟนฟุตบอลไปชมการแข่งขันได้ รวมทั้งการไปเยือนสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์
เมื่อวันที่ 14 ส.ค. นายกรัฐมนตรีของเกาหลีใต้ระบุว่า รัฐบาลอาจมีการนำมาตรการเว้นระยะห่างที่เข้มงวดมาใช้อีกครั้ง ทั้งในกรุงโซลและบริเวณใกล้เคียงหากสถานการณ์เลวร้ายลง และขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำการป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัยและการล้างมือ
หากมีการยกระดับมาตรการ สถานที่ซึ่งมีความเสี่ยงสูง ทั้งไนท์คลับ ผับ และบาร์คาราโอเกะจะถูกปิดเป็นการชั่วคราว การไปโบสถ์และร้านอาหารต้องสวมหน้ากากอนามัย และมีการบันทึกรายชื่อคนที่เข้าออกสถานที่เหล่านี้
มาตรการป้องกันไวรัสโคโรนาของเกาหลีใต้สร้างผลข้างเคียงเชิงบวกเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 13 ส.ค. ทาง CDC รายงานว่า ตัวเลขผู้ป่วยโรคติดต่ออื่นๆลดลงอย่างชัดเจน จากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และการสวมหน้ากากอนามัย โดยจำนวนผู้ป่วยโรคหัดลดลงถึง 97% ในปีนี้จนถึงเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่จำนวนผู้ป่วยโรคไอกรนและโรคไข้อีดำอีแดงลดลง 62%