เฟซบุ๊กเตือนรายได้โฆษณาจะวูบ
เฟซบุ๊กเตือนว่าการขยายตัวของรายได้จากโฆษณาจะชะลอตัวลงอย่างมีความหมายในช่วง 2-3 เดือนหน้า
นายเดวิด เวห์เนอร์ ประธานบริหารฝ่ายการเงินของยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียแห่งนี้รายงานว่า มีข้อจำกัดของจำนวนโฆษณาที่สามารถอยู่บนไทม์ไลน์ของผู้ใช้เฟซบุ๊ก ส่งผลให้หุ้นของบริษัทลดลงถึง 7% ขานรับรายงานนี้
ความเห็นของนายเวห์เนอร์มีขึ้นหลังจากเฟซบุ๊กได้รายงานผลกำไรสูงถึง 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสเดือนก.ค.-ก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 166% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2558
โดยรายได้ส่วนใหญ่ของเฟซบุ๊กมาจากโฆษณา ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่บนสมาร์ทโฟนถึง 84%
นายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กแสดงความเห็นต่อผลประกอบการบริษัทว่า “ เป็นอีกไตรมาสที่ดี ”
ปัจจุบัน มีผู้ลงชื่อเข้าใช้เฟซบุ๊กบนโทรศัพท์มือถือเกือบ 1,100 ล้านคนทั่วโลกทุกวัน นับว่าเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับ 894 ล้านคนในปี 2558
ขณะเดียวกัน วอทส์แอพ ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นส่งข้อความที่เฟซบุ๊กซื้อมาด้วยมูลค่า 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อต้นปี 2557 ถูกองค์กรตรวจสอบของเอกชนในยุโรปเตือนเกี่ยวกับการแชร์ข้อมูลผู้ใช้ร่วมกับบริษัทแม่
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กคาดการณ์ว่า จะเพิ่มจำนวนโฆษณาได้ไม่มากและรายได้จากการขยายตัวของโฆษณาจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญในปี 2560 อ้างอิงจากการรายงานของนายเวห์เนอร์เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์แย้งว่า นี่อาจเป็นเหตุผลที่จะผลักดันให้บริษัทพยายามลงทุนในวิธีอื่นๆ เพื่อสร้างผลกำไร
“ สิ่งขับเคลื่อนการเติบโตแบบเดิมๆ จะชะลอตัวลง แต่นายเวห์เนอร์ไม่ได้บอกมูลค่าของสิ่งที่อาจเป็นแหล่งที่มาของรายได้ใหม่ๆ ” นายมาร์ติน การ์เนอร์ นักวิเคราะห์ที่ CCS Insight ให้ความเห็น
นายจอช โอลสัน นักวิเคราะห์ที่ Edward Jones กล่าวว่า ทางเฟซบุ๊กสามารถคิดราคาค่าโฆษณาให้สูงขึ้นได้ และเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ๆ
“ เราประเมินว่ารายได้จากโฆษณาของเฟซบุ๊กจะลดลงก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊กคงต้องลงทุนบางอย่างแบบนี้บนสมาร์ทโฟน และเราจะเห็นว่าจะเป็นอย่างไร และเรามองว่า นี่เป็นโอกาส ” นายโอลสันกล่าว
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กกำลังพิสูจน์ศักยภาพในการทำรายได้จากด้านอื่นๆ เช่น ตลาดขายของที่ทำให้ผู้ใช้งานขายสินค้าได้ และเป็นการทดลองประสบการณ์ใหม่ด้วยการคุยในแอพพลิเคชั่นส่งข้อความ ซึ่งมองว่านี่จะเป็นหนทางที่บริษัทใช้สื่อสารกับลูกค้าได้มากขึ้น.