นิวซีแลนด์ปลอดโควิด-19 ครบ 100 วัน
เวลลิงตัน (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 9 ส.ค. นิวซีแลนด์ครบ 100 วันที่ไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในชุมชนในประเทศ แต่เตือนให้เฝ้าระวังต่อไปเนื่องจากหลายประเทศ ทั้งเวียดนามและออสเตรเลีย ซึ่งเคยควบคุมไวรัสโคโรนาได้ ต้องต่อสู้กับการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความสำเร็จของนิวซีแลนด์ในการต่อสู้กับโควิด-19 ทำให้ประเทศที่มีประชากร 5 ล้านคนแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลกในปัจจุบัน
พลเมืองนิวซีแลนด์กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ แต่ทางการกังวลว่าจะมีประชาชนที่ปฏิเสธการตรวจหาเชื้อ ไม่ใช้แอปพลิเคชั่นในการติดตามตัวของรัฐบาล และแม้แต่ละเลยการปฏิบัติตามมาตรการเพื่อสุขอนามัยพื้นฐาน
“ ความสำเร็จที่ไม่มีการติดเชื้อในชุมชนครบ 100 วันถือเป็นหลักชัยที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม อย่างที่เราทราบ เราไม่อาจพึงพอใจได้” ดร.แอชลีย์ บลูมฟีลด์ อธิบดีกรมสุขภาพระบุ
“เราเห็นในต่างประเทศที่ไวรัสอุบัติขึ้นมาอีกครั้งและแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในที่ซึ่งเคยควบคุมไวรัสได้แล้ว และเราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมที่จะสกัดการติดเชื้อในอนาคตให้ได้อย่างรวดเร็วในนิวซีแลนด์ ”
นิวซีแลนด์มีผู้ติดเชื้อ 23 รายที่อยู่ในสถานที่กักตัว และจนถึงตอนนี้ มีผู้ป่วยสะสมจากโควิด-19 ทั้งหมด 1,219 ราย
โดยเวียดนาม ซึ่งเคยปลอดไวรัสและไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศนาน 3 เดือน ตอนนี้ต้องเร่งควบคุมการระบาดครั้งใหม่ในเมืองดานัง เมืองท่องเที่ยวสำคัญ
เมืองเมลเบิร์น ซึ่งมีขนาดใหญ่ป็นอันดับ 2 ในออสเตรเลีย ประเทศเพื่อนบ้านของนิวซีแลนด์ มีมาตรการล็อกดาวน์นาน 6 สัปดาห์เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นมาก การระบาดในระลอกสองในเมลเบิร์นเกิดจากความผิดพลาดในการกักตัว
“ ในหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ การระบาดมีแนวโน้มจะเกิดจากการจัดการเรื่องการแยกกักตัวและสถานที่กักตัว เพราะมีจำนวนประชากรอาศัยอยู่มาก และเจ้าหน้าที่จากหลายกะต้องหมุนเวียนมาดูแลพวกเขา”
ไมเคิล เบเคอร์ อาจารย์ด้านสาธารณสุขประจำมหาวิทยาลัยโอทาโกระบุ
มีหลายคนที่เดินทางกลับนิวซีแลนด์แล้วหลบหนีไม่ยอมถูกกักตัวและอีกหลายกรณีเป็นความหละหลวมด้านความปลอดภัย
ในสัปดาห์ก่อน นิวซีแลนด์เร่งตรวจหาเชื้อในสถานที่กักตัวและคลินิก และเริ่มทำงานด้านการติดตามหาเส้นทางการติดเชื้อด้วยเทคโนโลยีบลูทูธ
เมื่อวันที่ 8 ส.ค. นายกรัฐมนตรีเจซินดา อาร์เดิร์นเริ่มเดินหน้าแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งโดยใช้ชื่อว่า “เลือกตั้งโควิด”
แต่จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นจากอาการของโควิด-19 อาจก่อให้เกิดแรงต่อต้านเธอ และให้โอกาสฝ่ายค้านในการแข่งขันกับเธอได้มากขึ้น