รัสเซียเกือบครึ่งกลัวสงครามโลกครั้งที่ 3
ประชาชนชาวรัสเซียเกือบครึ่งกังวลว่าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 จากความสัมพันธ์ที่เลวร้ายลงระหว่างรัสเซียกับประเทศตะวันตก อ้างอิงจากโพลล์สำรวจล่าสุด
โดยในผลการสำรวจ ที่จัดทำโดย Levada Center ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระชี้ว่า 48% ของผู้ตอบสอบถามรู้สึกต่อต้านการทำสงครามของรัสเซียในประเทศซีเรีย ซึ่งอาจทำให้ความขัดแย้งแผ่ขยายไปทั่วโลก
10% ของผู้ตอบแบบสอบถามในโพลล์นี้รู้สึกกลัวอย่างรุนแรง ขณะที่ 38% ที่เหลือรู้สึกกลัวอยู่บ้างเกี่ยวกับบทสรุปความขัดแย้งของกองทัพระหว่างรัสเซียและประเทศในซีกโลกตะวันตก
ทั้งนี้ มากกว่า 50% ของผู้ที่ถูกถามให้การสนับสนุนแคมเปญการรบทางอากาศที่รัสเซียทำอยู่ในซีเรีย แต่มีเพียง 18% ที่กล่าวว่า พวกเขาเฝ้าจับตามองสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด
อีก 52% ของผู้ใหญ่ชาวรัสเซีย 1,600 คนในการสำรวจทั่ว 48 ภูมิภาคที่แตกต่างกันสนับสนุนการรบของรัสเซียในซีเรีย และอีก 49% คิดว่า รัสเซียควรคงความสัมพันธ์ในความขัดแย้งนี้ต่อไป
โดยเนื้อหาของผลการสำรวจ ซึ่งพิจารณาว่ามีความเป็นอิสระ กลับถูกศาลรัสเซียสั่งปรับเมื่อวันที่ 26 ต.ค. เนื่องจากไม่ได้จดทะเบียนเป็นตัวแทนจากต่างชาติ
ขณะเดียวกัน หัวหน้าสายลับที่หน่วยงานความมั่นคงในสหราชอาณาจักรให้ความเห็นกับหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนว่า รัสเซียกำลังเป็นภัยคุกคามเพิ่มขึ้นกับสหราชอาณาจักร
“ รัสเซียใช้หน่วยงานรัฐที่มีอยู่ทั้งหมดและอำนาจที่จะผลักดันนโยบายต่างประเทศในทางที่ก้าวร้าวรุนแรงโดยใช้ทั้งการโฆษณาชวนเชื่อ การจารกรรม การบ่อนทำลาย และการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งรัสเซียกำลังกระทำอยู่ทั่วยุโรปและสหราชอาณาจักรในตอนนี้ มันเป็นภารกิจของหน่วย MI5 ที่จะต้องเจาะเข้าสู่ข้อมูลในระดับนั้น ” นายแอนดรูว์ พาร์คเกอร์ ผู้อำนวยการทั่วไปของหน่วย MI5 กล่าว
ในการสัมภาษณ์สายลับของสหราชอาณาจักรเป็นครั้งแรก นายพาร์คเกอร์ยังได้กล่าวเสริมว่า รัสเซียมีเจ้าหน้าที่รัฐที่เฉลียวฉลาด แต่ที่ต้องจับตามองมากกว่าคือ การทำสงครามไซเบอร์
“ รัสเซียดูจะกำหนดนิยามประเทศตัวเองว่า มีนโยบายต่อต้านตะวันตก และดูจะมีท่าทีที่แข็งกร้าวชัดเจนคุณก็คงเห็นการสู้รบของรัสเซียในยูเครนและซีเรีย แต่ยังคงมีกิจกรรมที่เป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เราไม่รู้อีกจำนวนมาก ”
“ รัสเซียเป็นภัยคุกคามที่ไม่เปิดเผยมานานหลายทศวรรษ ที่แตกต่างในเวลานี้คือ มียุทธวิธีที่หลากหลายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ” นายพาร์คเกอร์กล่าวสรุป.