ผลผลิตไวน์ทั่วโลกตกต่ำในรอบ 4 ปี
คาดการณ์ว่าผลผลิตไวน์ทั่วโลกในปีนี้จะตกต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี เนื่องจากสภาพอากาศไม่ดีส่งผลกระทบต่อการผลิตในฝรั่งเศสและอเมริกาใต้ อ้างอิงจากการทำนายของอุตสาหกรรมผลิตไวน์
องค์การกลุ่มการค้าไวน์ระหว่างประเทศ ( OIV) ได้ประเมินว่า ผลผลิตไวน์จะสูงถึง 259.5 เฮคโตลิตร (mhl.) ในปีนี้ ลดลงมา 5 % เมื่อเทียบกับปี 2558
ซึ่งจะทำให้ปี 2559 นี้จัดอยู่ใน 3 ปีที่มีผลผลิตต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา อ้างอิงจากรายงาน
อย่างไรก็ตาม ผลผลิตที่น้อยลงจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายในร้าน
“ ราคาไวน์จากบางพื้นที่ อาจมีความตึงเครียดในด้านราคาบ้าง เนื่องจากสภาพอากาศทางภูมิศาสตร์ที่เลวร้ายย่ำแย่ ” โฆษกของ OIV กล่าว
“ แต่มีอยู่บ่อยครั้งที่ผู้ผลิตและอุตสาหกรรมไวน์ตัดสินใจเก็บไวน์ไว้ในสต็อคเพื่อเป็นการรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ ”
ในยุโรป ทาง OIV กล่าวว่า อิตาลีขึ้นเป็นผู้นำอันดับ 1 ในการผลิตไวน์ในระดับโลก ถึงแม้จะมีการคาดการณ์ว่าผลผลิตจะปรับลดลง 2% ลงมาอยู่ที่ 48.8 mhl.
แต่ในฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ผลิตอันดับ 2 มีรายงานว่า ผลผลิตโดยรวมมีแนวโน้มจะลดลง 12% เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกมีอากาศหนาวเย็นจนมีหิมะเกาะเป็นน้ำค้างแข็ง มีพายุลูกเห็บในฤดูใบไม้ผลิ และแห้งแล้งในฤดูร้อน
นอกจากนี้ ในกลุ่มประเทศแถบอเมริกาใต้ก็ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน
โดยในอาร์เจนตินามีรายงานถึงผลผลิตที่ลดดิ่งลงถึง 35% ในชิลีลดลง 21% และบราซิลลดลงมากถึง 50% เมื่อเปรียบเทียบกับผลผลิตในปี 2558
ขณะเดียวกัน ในแอฟริกาใต้ก็มีรายงานว่า ผลผลิตไวน์ร่วงลงมา 19% แต่ประเทศผู้ผลิตหน้าใหม่ได้รับการยอมรับว่ากำลังดีขึ้นอย่างตอเนื่อง
ทางองค์การรายงานว่า คาดการณ์ว่าผลผลิตไวน์ของออสเตรเลียในปีนี้จะปรับเพิ่มขึ้น 5% ขณะที่ในนิวซีแลนด์ ผลผลิตไวน์ปรับเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดคือสูงถึง 34% และสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้ผลิตไวน์มากเป็นอันดับ 4 ของโลก ก็มีผลผลิตเพิ่มสูงขึ้น 2% เช่นกัน.
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 34.97 บาท / 22 ต.ค. 2559