ชาวอเมริกันประหยัดมากขึ้น
ในสถานการณ์ปัจจุบันที่แสนสับสนวุ่นวายนี้ ไม่มีใครรู้ว่าใครโกหก ใครพุดจริง จึงส่งผลให้ประชาชนชาวอเมริกันส่วนใหญ่เลือกที่จะปลอดภัยไว้ก่อนในเรื่องเงิน มีการประเมินว่า เกือบ 2 ใน 3 ของชาวอมริกันกำลังจำกัดปริมาณการใช้จ่ายเงิน อ้างอิงจากการรายงานของ Bankrate.com
ทั้งนี้ จำนวนคนส่วนใหญ่ในรายงานผลการสำรวจต้องการเก็บออมเงินเพิ่มขึ้น ทำให้มีการใช้จ่ายเงินอย่างรอบคอบระมัดระวัง ขณะที่ 25% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวโทษว่าสาเหตุคือค่าจ้างที่คงที่ รองลงมาคือ ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจและมีปริมาณหนี้สินเพิ่มขึ้น
“ สุดท้ายแล้ว คนอเมริกันกำลังประหยัดการใช้จ่ายเงินเพื่อจุดประสงค์ที่สำคัญที่สุดคือ การออมเงิน ” อ้างอิงจากความเห็นของนายเกร็ก แมคไบรด์ หัวหน้านักวิเคราะห์การเงินของ Bankrate
“ นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่เหตุผลในการประหยัดการใช้จ่ายข้อแรกไม่ใช่ รายได้ที่คงที่ ” เขากล่าวถึงแม้ชาวอเมริกันจะให้ความสำคัญกับการเก็บออมเงินมากขึ้นในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ แต่การขาดเงินสำรองฉุกเฉินยังคงเป็นเรื่องใหญ่ อ้างอิงจากรายงาน
ที่จริงแล้ว ชาวอเมริกันส่วนใหญ่มีปริมาณหนี้จากบัตรเครดิตสูงกว่าจำนวนเงินสำรองฉุกเฉิน อ้างอิงจากผลสำรวจของ Bankrate โดยนายแมคไบรด์แนะนำว่า ประชาชนควรมีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายในกรณีที่มีสถานการณ์ฉุกเฉินได้นานถึง 6 เดือน โดยจากผลการสำรวจ มีเพียง 28% ของชาวอเมริกันที่มีเงินออมสำรองไว้มากพอในระดับนี้ และจากผลการศึกษาที่แยกส่วนกันชี้ให้เห็นว่า อีก 28% ของชาวอเมริกันไม่มีเงินเก็บสำรองฉุกเฉินเลย
คนในยุค ‘มิลเลนเนียล’ ซึ่งเป็นประชาชนถัดจากคนในเจเนอเรชั่น X มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเงินอย่างประหยัดเพื่อเก็บออมเงินให้มากขึ้น อ้างอิงจากรายงาน
ทั้งนี้ ชาวอเมริกันจำนวนมากมีหนี้สินที่เกิดจากการกู้ยืมเพื่อการศึกษา โดยคนในยุคมิลเลนเนียลรุ่นใหญ่ที่มีอายุ 25- 35 ปี ชี้ว่า มีจำนวนหนี้จากการศึกษาซึ่งเป็นหนี้ในระดับฐานรากมากกว่าคนในช่วงอายุอื่น
สำหรับชาวอเมริกันที่มีอายุมากกว่า 62 ปี รวมทั้งผู้เกษียณอายุแล้วที่มีเงินเก็บออมค่อนข้างจำกัดให้ความเห็นว่า พวกเขาต้องจำกัดการใช้จ่ายเงินเป็นเรื่องแรก เพราะมีรายได้คงเดิม ไม่งอกเงยเพิ่มพูนขึ้น อ้างอิงจากผลการสำรวจจากประชาชนชาวอเมริกัน 1,000 คน เมื่อต้นเดือนต.ค. นี้.