‘จอห์นสัน’ เตือนระบาดระลอก 2 จากสเปน
เมื่อวันที่ 28 ก.ค. นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันแห่งสหราชอาณาจักรเตือนถึงการระบาดระลอกสองของโควิด-19 ในยุโรป โดยกล่าวปกป้องการตัดสินใจของเขาในการกักตัวนักเดินทางที่มาจากสเปน แม้จะถูกวิจารณ์หนักจากรัฐบาลสเปนก็ตาม
โดยนายกฯจอห์นสันระบุว่า สหราชอาณาจักรมีปฏิกิริยาที่ “รวดเร็วและเด็ดขาด” ในช่วงสุดสัปดาห์ด้วยการสั่งกักตัว 14 วันสำหรับนักเดินทางทุกคนที่มาจากสเปน ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญสำหรับชาวอังกฤษ
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกวิจารณ์อย่างต่อเนื่องจากทั้งรัฐบาลสเปนและในสหราชอาณาจักรเอง
นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซแห่งสเปนระบุว่า การตัดสินใจของจอห์นสันนั้น “ไม่สมดุล ” และย้ำว่าหลายพื้นที่ของประเทศสเปนมีความปลอดภัยจากไวรัสมากกว่าหลายพื้นที่ในสหราชอาณาจักร แต่จอห์นสัน ซึ่งอยู่ในระหว่างการไปเยือนพื้นที่มิดแลนด์ของอังกฤษระบุว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง
“ สิ่งที่เราทำคือปฏิบัติการที่รวดเร็วและเด็ดขาดซึ่งเราคิดว่า เริ่มมีความเสี่ยงมากขึ้นอีกครั้ง” เขากล่าวในเมืองนอตติงแฮม
“ เห็นได้ชัดเจนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในยุโรป ท่ามกลางประเทศเพื่อนบ้านของเราบางประเทศ ผมกลัวว่าจะเริ่มเห็นบางแห่งมีสัญญาณการระบาดในระลอกสอง”
อย่างไรก็ตาม เขามีท่าทีว่าอาจมีการปรับลดช่วงเวลาการกักตัวลง คืออาจจะเป็น 10 วัน แทนที่จะเป็น 14 วัน จอห์นสันระบุว่า สหราชอาณาจักรมองหาหนทาง “ที่เราสามารถบรรเทาผลกระทบได้ ”
ทั้งนี้อังกฤษมีมาตรการคุมเข้มหลังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในสเปน โดยนอร์เวย์เริ่มมีมาตรการเช่นกัน และนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ฌอง คาสเท็กซ์ แนะนำเชิงบังคับให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสเปน ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งมีตัวเลขผู้ติดเชื้อมากที่สุด โดยเยอรมนีแสดงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการติดเชื้อที่พุ่งขึ้น
นายกฯ ซานเชซกล่าวปกป้องจุดระบาดของไวรัสในสถานที่ท่องเที่ยวของสเปน ทั้งเกาะแบลีแอริกและเกาะคานารี แคว้นอันดาลูเซียและวาเลนเซีย โดยระบุว่า สถานที่เหล่านี้มียอดผู้ป่วยสะสมจากไวรัสต่ำกว่าที่เป็นอยู่ในสหราชอาณาจักร
“ นี่อาจพูดได้ว่า ในแง่ของการระบาด สถานที่เหล่านั้นอาจมีความปลอดภัยกว่าในสหราชอาณาจักร” ซานเชซกล่าวให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา
โดยเขาเสริมว่า รัฐบาลสเปนกำลังเจรจากับทางอังกฤษ “ เพื่อพยายามโน้มน้าวให้พิจารณาทบทวนมาตรการอีกซึ่งในความเห็นของเราคือ มันไม่สมดุล”
ในอังกฤษเอง การตัดสินใจนี้ยังถูกกดดันจากพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน โดยตำหนิว่ารัฐบาลของนายกฯจอห์นสันจัดการกับประเด็นนี้ได้แย่มาก โดยพรรคแรงงานเรียกร้องให้ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอังกฤษที่เร่งเดินทางกลับประเทศจากความกลัวว่า กฎใหม่จะกระทบกับงานของพวกเขา
ก่อนหน้านี้ สหราชอาณาจักรระบุว่า ประชาชนสามารถเดินทางไปที่เกาะคานารีและเกาะแบลีแอริก แต่ต่อมา กลับออกมาตรการกักตัวที่ครอบคลุมเกาะเหล่านี้ด้วย
ความเคลื่อนไหวนี้ส่งผลกระทบร้ายแรงกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของสเปน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรมากถึง 18 ล้านคนในปีที่แล้ว นับเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มใหญ่ที่สุด
โดยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของสเปนคิดเป็น 12% ของจีดีพีประเทศและ 13% ของการจ้างงาน
ทั้งสหราชอาณาจักรและสเปนเป็นประเทศในยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากที่สุด
ตัวเลขทางการชี้ว่า มีผู้เสียชีวิตเกือบ 46,000 ราย และมีผู้ป่วยยืนยันสะสมจากโควิด-19 ถึง 300,000 ราย แต่ตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้มาก
ขณะที่ในสเปน มีผู้เสียชีวิตกว่า 28,400 รายและมีผู้ติดเชื้อกว่า 272,000 ราย