WTO หั่นเศรษฐกิจโลกเหลือ1.7%
องค์การการค้าโลก (WTO) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ของการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ลงมากกว่า 1 ใน 3 ในวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา สะท้อนถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในจีนและตัวเลขการนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ลดต่ำลง
โดยตัวเลขใหม่คือ 1.7% ลดลงมาจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ของ WTO ที่ประเมินไว้ที่ 2.8% ในเดือนเม.ย. ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปีที่ WTO ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของทั่วโลก
ตัวเลขนี้อาจเป็นการส่งสัญญาณให้รัฐบาลของหลายประเทศตื่นขึ้นมา อ้างอิงจากความคิดเห็นของนายโรเบอร์โต แอซเวโด ผู้อำนวยการทั่วไปของ WTO เขียนในรายงานแนวโน้มการค้าประจำ 6 เดือน
โดยในรายงานได้แสดงความคิดเห็นของเขาไว้ว่า “ เราต้องแน่ใจว่าตัวเลขนี่จะไม่ถูกแปลความหมายที่จะทำให้นโยบายปรับเปลี่ยนไปและทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่ลงกว่าเดิม ไม่เพียงแต่แนวโน้มการค้าแต่ยังรวมถึงการสร้างงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการพัฒนา ซึ่งจะเชื่อมโยงกับระบบการค้าที่เปิดกว้าง ”
ทั้งนี้ ในรายงานได้เน้นถึงความกังวลว่า หลังจากมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจมานานผ่านกระบวนการโลกาภิวัตน์ รัฐบาลของหลายประเทศต่างเพิ่มมาตรการปกป้องอุตสาหกรรมและส่งเสริมผู้ผลิตในประเทศให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้
WTO กล่าวว่า ในปีนี้ การค้าทั่วโลกมีการขยายตัวเพียง 80% จากที่เคยเป็น ซึ่งเป็นกระบวนการโลกาภิวัตน์ถดถอยที่เกิดขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2544
“ ผมเชื่อว่า นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีของการค้าทั่วโลกนัก ” เขากล่าวในการแถลงข่าวของ WTO
ทั้งนี้ เขากล่าวว่า ผลกำไรจากการค้าควรจะถูกแบ่งปันให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ด้วยระบบที่ช่วยเหลือประเทศที่ยากจน บริษัทขนาดเล็ก กลุ่มชายขอบและผู้ประกอบการมากขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดจากนักเคลื่อนไหวที่ต่อต้านระบบโลกาภิวัตน์ที่กล่าวว่า มีการตกลงทางการค้าอย่างลับๆ ที่มุ่งช่วยเหลือธุรกิจขนาดใหญ่
นายแอซเวโดกล่าวว่า จำนวนงาน 4 ใน 5 ส่วนที่หายไปในประเทศอุตสาหกรรมไม่ได้เกิดจากการแข่งขันจากการนำเข้าที่ถูกลง แต่มาจากการใช้ระบบหุ่นยนต์และกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพที่ช่วยให้บริษัทลดจำนวนแรงงานลง
นางเซซิเลีย มาล์มสตอร์ม คณะกรรมาธิการการค้ายุโรปให้ความเห็นในทิศทางเดียวกันกับนายแอซเวโดโดยกล่าวว่า ระบบการค้าต้องมีประสิทธิภาพ มีมูลค่าและโปร่งใส
ทั้งนี้ WTO ยังได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางการค้าในปี 2560 ลงเหลือ 1.8-3.1% จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย.อยู่ที่ 3.6%.